30 มิถุนายน 2025 เวลา 05:20 น.
อีกทั้งสหรัฐ ยังบรรลุข้อตกลงส่งออก Rare Earth กับจีนซึ่งช่วยลดแรงกดดันต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี ขณะที่ Powell ส่งสัญญาณ Dovish ว่าผลกระทบจากมาตรการภาษีต่อเงินเฟ้ออาจต่ำกว่าคาด หนุนตลาดให้คาดหวังว่า Fed อาจลดดอกเบี้ยได้ถึง 3 ครั้งในปีนี้ แม้ GDP สหรัฐไตรมาส 1/2025 (ประมาณการครั้งสุดท้าย) จะถูกปรับลดลงเหลือ -0.5% QoQ จากการบริโภคบริการที่ชะลอตัว โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว แต่ภาคการลงทุนใน Software และ R&D ยังคงเติบโตได้ดี ด้านยุโรปยัง Underperform จากแรงกดดันข้อเรียกร้องของ NATO ที่ต้องการให้แต่ละประเทศเพิ่มงบกลาโหมเป็น 5% ของ GDP และสเปนยังถูกทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าเป็น 2 เท่าหลังปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าว ขณะที่ปัจจัย Micro ที่หนุนตลาดคือ การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่ม Technology และ Semiconductor นำโดย Nvidia ซึ่งราคาหุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่องจากความสำเร็จของ Blackwell chips ที่เริ่มผลิตในสหรัฐ เป็นครั้งแรก สร้าง Supply chain “Made in USA” พร้อมประกาศธีม Physical AI/Robotics เป็น S-Curve ใหม่ต่อจาก Data Center ตอกย้ำศักยภาพการเติบโตในระยะยาว ขณะเดียวกัน Micron ผู้ผลิตชิปหน่วยความจำรายสำคัญก็รายงานผลประกอบการแข็งแกร่งจากความต้องการ AI, HBM และ Data Center ส่วนกลุ่มธนาคารสหรัฐ เช่น JPM และ GS ราคาหุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่หลังมีแนวโน้มการลดเกณฑ์เงินกองทุนขั้นต่ำ (Tier 1 Capital Ratio) เพื่อเอื้อต่อการถือครอง Treasuries
► • สำหรับตลาดหุ้นไทย
โดยดัชนี SET ฟื้นตัวตามตลาดหุ้นโลกจากการหยุดยิงอิสราเอล-อิหร่าน ขณะที่ปัจจัยภายในมาจาก กนง. คงดอกเบี้ยและปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP หนุนความเชื่อมั่น แต่ตลาดยังเผชิญความเสี่ยงการเมืองในประเทศจากการปรับ ครม. หลังพรรคร่วมถอนตัวและวิกฤติข้อพิพาทไทย-กัมพูชา รวมถึงแรงกดดันจากการชุมนุมใหญ่วนวันที่ 28 มิ.ย. ซึ่งส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล และติดตามการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐ หลังรัฐมนตรีคลังแจ้งได้คิวเจรจาในสัปดาห์นี้ หุ้นแนะนำสัปดาห์นี้ คือ
เราชอบ BDMS สำหรับ Defensive play ในฐานะเครือข่ายโรงพยาบาลที่แข็งแกร่งที่สุดในไทย ปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ -1SD ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยและเกิดขึ้นเพียงสามครั้งตั้งแต่ปี 2010 คาดว่า BDMS จะรักษาโมเมนตัมการเติบโตแข็งแกร่งได้จนถึงปี 2025 โดยรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติยังเติบโตในเมษายน โดยเฉพาะผู้ป่วยตะวันออกกลางที่เติบโต 45% YoY จากความสำเร็จของทีมการตลาดและการเพิ่มแพทย์เฉพาะทาง ทำให้ BDMS เป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดตะวันออกกลาง และ
เราแนะนำเก็งกำไร TRUE ต่อการประมูล หากผลประมูลดีกว่าคาดจะมีอัพไซด์ต่อประมาณการ โดยประเมินผลประโยชน์จากต้นทุนที่ลดลงประหยัด 2 บาทต่อหุ้น ยังคงมองบวกต่ออุตสาหกรรมโทรคมนาคม ไทยที่มีโครงสร้าง Duopoly ทั้งมือถือและบรอดแบนด์ ทำให้การแข่งขันราคาต่ำและ ARPU โตสอดคล้อง GDP การเติบโต EBITDA และ FCF มาจากการประหยัดต้นทุนและ Synergy มีปัจจัยหนุนหลักจากการเปลี่ยนจ่ายค่าโรมมิ่ง NT เป็นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต NBTC การลดต้นทุนเครือข่ายถาวร และ Synergy หลังควบรวมด้วยการปรับปรุงเครือข่ายเสร็จใน 3Q/25 พร้อมแผนลดคนและสินทรัพย์ส่วนเกิน ประกอบกับการแข่งขันลดลงทำให้เงินอุดหนุนและงบการตลาดต่ำลงอย่างยั่งยืน
► • Last Call สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนหุ้นไทย พร้อมลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน Thai ESGX วันที่ 30 มิ.ย. นี้ จะเป็นวันสุดท้ายแล้ว ถ้าเงินลงทุนเป็นก้อนใหม่ เราแนะนำ K-HDThaiESGX-68 ที่มีนโยบายลงทุนหุ้นยั่งยืนที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ และ K-70Thai ESGX-68 ที่มีนโยบายคล้ายกับกองแรกแต่มีการผสมตราสารหนี้เข้าไป30% โดยทั้งสองกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง และสำหรับผู้ลงทุนที่จะโอนย้ายเงินลงทุนจาก LTF มา Thai ESGX เราแนะนำกองทุน K-HD Thai ESGX-L และ K-70ThaiESGX-L โดยมีนโยบายการลงทุนไม่ต่างจากที่กล่าวมาข้างต้น
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
FACEBOOK :
ท้นหุ้น คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
ทันหุ้นออนไลน์ คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
YOUTUBE : Thunhoon คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok : Thunhoon คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม