#หุ้นกลุ่มขนส่งทางบก #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มขนส่งทางบก โดย บล.กสิกรไทย

.

ท่องเที่ยวอ่อนแอส่งผลต่อจำนวนผู้โดยสาร

รฟท. เตรียมเปิดประมูลเดินรถและบำรุงรักษารถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กลางปี 69 คาดเริ่มก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ภายในเดือน ก.ย. นี้

ปริมาณจราจรทางด่วนและรถไฟลดลง YoY ในเดือน มิ.ย. ตามจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ลดลง 15% YoY 20 บาทตลอดสายจะช่วยชดเชยปริมาณจราจรทางรถไฟที่ลดลง

มุมมองบวก ค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายจะช่วยชดเชยจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง พัฒนาการและกิจกรรมใหม่ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 จะช่วยกระตุ้นการจราจรในช่วงดังกล่าว

.

มีอะไรใหม่?

ประการแรกเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กำลังเตรียมเปิดประมูลโครงการเดินรถและบำรุงรักษา (O&M) รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ภายใต้สัญญาร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ในช่วงกลางปี 2569 มูลค่าโครงการรวม 1 แสนลบ.

โดยคาดว่าจะมี BTS, BEM และ Asia Era One เข้าร่วมประมูล โดยคาดว่าระยะแรกจะเริ่มดำเนินการในปี 2572 และระยะที่สองในปี 2574

.

ประการที่สองสำนักงานอัยการสูงสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน โดยจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ รฟท.

ในวันที่ 17 ก.ค. และคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในเดือน ก.ย. เพื่อเริ่มการก่อสร้าง ขณะที่นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ส่งผลกระทบต่อสมมติฐานรายได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเจรจาเงื่อนไขการแบ่งปันผลประโยชน์กับภาคเอกชนใหม่

.

อัปเดตการจราจร

ปริมาณการจราจรทั้งระบบรถไฟฟ้าและทางด่วนลดลง YoY ในเดือน มิ.ย.

ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าหดตัวลง 15%YoY โดย BEM รายงานปริมาณผู้ใช้ทางด่วนเฉลี่ยอยู่ที่ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน (-1.5% YoY และ +7.3% MoM คิดเป็น 88% ของปี 2562) ต่ำกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้ 3.6%

ส่วนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินอยู่ที่ 405,000 เที่ยวต่อวัน (-1.5% YoY และ +7.3% MoM คิดเป็น 130% ของปี 2562) ต่ำกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้ 4%

ขณะที่ BTSGIF รายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวหลักอยู่ที่ 405,800 เที่ยวต่อวัน (-1.8%YoY และ +6.6% MoM คิดเป็น 78% ของปี 2562) ต่ำกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้ 2.4%

ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคมรายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองอยู่ที่ 44,800 เที่ยวต่อวัน (+28% YoY และ +5.5% MoM) ในเดือน มิ.ย.

ทั้งนี้ ในเดือน มิ.ย. 2567 มีจำนวนผู้โดยสารน้อยกว่าปกติจากอุบัติเหตุในช่วงเดือน มี.ค. 2567

ส่วนจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยของรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูอยู่ที่ 66,000 เที่ยว (+20% YoY และ +12.8% MoM)

ปริมาณการจราจรบนทางด่วนของ DMT เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 0.1 ล้านเที่ยว (-6.1% YoY และ +0.5% QoQ) ต่ำกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดไว้ 6%

.

แนวโน้ม

สำหรับครึ่งแรกของปี 2568 จำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้า BTS และ BEM อยู่ที่ -0.3% YoY และ +0.7% YoY ตามลำดับ ต่ำกว่าที่ประมาณการทั้งปีของบล.กสิกรไทยเล็กน้อยที่ +0.8% และ +2.4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวที่อ่อนแอ หากนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสายมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.

น่าจะช่วยกระตุ้นจำนวนผู้โดยสาร และรายได้ค่าโดยสารของ BTS และ BEM ในขณะเดียวกัน ยังจะช่วยสนับสนุนธุรกิจโฆษณา และธุรกิจค้าปลีกเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบของปริมาณการจราจรที่ต่ำกว่าคาดในประมาณการกำไรปกติปี 2568 ของบล.กสิกรไทยได้บางส่วน

สำหรับทางด่วนในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ปริมาณการจราจรของ BEM ต่ำกว่าที่บล.กสิกรไทยคาดการณ์ไว้เล็กน้อย (คลาดเคลื่อนน้อยกว่า 1%) โดยอิงจากสมมติฐานการเติบโตที่ทรงตัว YoY

ปริมาณการจราจรบนทางด่วนของ DMT ลดลง 6% YoY เมื่อเทียบกับที่ประมาณการทั้งปีของบล.กสิกรไทยที่ลดลง 3% ตามการท่องเที่ยวที่อ่อนแอและการปรับขึ้นอัตราค่าผ่านทาง ซึ่งหมายความว่ากำไรปกติปี 2568 ของบล.กสิกรไทยมีความเสี่ยงที่จะลดลง 4% และมูลค่าหุ้นจะลดลง 0.4 บาท/หุ้น (หรือ 3% ของราคาเป้าหมายของบล.กสิกรไทยที่ 12.6 บาท) แต่บล.กสิกรไทยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ลดลงจะบรรเทาลงในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งหลังของปี

.

บล.กสิกรไทยคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มขนส่งภาคพื้นดิน โดยมี BEM เป็นหุ้นเด่น

ปัจจัยเพิ่มตัวคูณมูลค่าหุ้นของกลุ่มธุรกิจนี้ประกอบด้วย

ผลประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมที่สูงกว่าคาดจากมาตรการ 20 บาทตลอดสายของรัฐบาล

ความสามารถของรัฐบาลในการผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 ได้ทันเวลา

การเปิดโครงการพัฒนาตามเส้นทางรถไฟฟ้า เช่น โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เฟส 2 ในวันที่ 4 ก.ย.

โครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งคาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีชมพูในช่วงที่มีงานอีเวนต์หนาแน่นที่เมืองทองธานีในไตรมาส 3-4/2568

บล.กสิกรไทยชอบ BEM มากกว่า BTS เนื่องจากมีความยืดหยุ่นในการปรับตัวท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และกระแสเงินสดที่มั่นคง

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/