> SET > TISCO

16 กรกฎาคม 2025 เวลา 13:38 น.

TISCO โบรกมองต่างมุม หลังแจ้งผลงานไตรมาส 2/68


#tisco #ทันหุ้น - การซื้อขายหุ้นของบริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO วันที่ 16 ก.ค.68 ราคาเคลื่อนไหวในช่วง 97.75-99.00 บาท ก่อนปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ 98.00 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือลดลง 1.01% มูลค่าการซื้อขาย 303.36 ล้านบาท

.

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีมุมมองเป็นกลาง ให้คำแนะนำ “ถือ” 13 ราย ให้คำแนะนำ “ซื้อ” และ “ขาย” อย่างละ 2 รายเท่ากัน โดยโบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมในช่วง 83.00-109 บาท  ค่ากลางอยู่ที่ 100 บาท

.

บล.บัวหลวงคาดกำไรลดลงในครึ่งหลังของปี 2568

บล.บัวหลวงระบุว่า TISCO รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/2568 ที่ 1.6 พันล้านบาท ลดลง 6% YoY และทรงตัว QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่บล.บัวหลวงคาด (แต่มากกว่าตลาดคาด 6%) กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองอยู่ที่ 2.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% YoY และ 7% QoQ กำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 2568 คิดเป็น 52% ของประมาณการกำไรทั้งปีที่ 6.3 พันล้านบาท

บล.บัวหลวงประมาณการกำไรสุทธิจะลดลง YoY และ QoQ สำหรับไตรมาส 3/2568 เนื่องจาก NIM ที่ลดลงและอัตราการตั้งสำรองหนี้ฯ ที่เพิ่มขึ้น

บล.บัวหลวงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 6.3 พันล้านบาท ลดลง 9% YoY เนื่องจากอัตราการตั้งสำรองหนี้ฯ สูงขึ้น

PER ปี 2568 ของ TISCO อยู่ที่ 12.7 เท่า โดย PBV ณ สิ้นปี 2568 อยู่ที่ 1.8 เท่า และ ROE ปี 2568 อยู่ที่ 14.4% ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน PBV/ROE ที่ 0.126 เท่า โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยหุ้นกลุ่มธนาคารที่บล.บัวหลวงให้คำแนะนำที่ 0.088 เท่าอยู่มาก บล.บัวหลวงยังคงคำแนะนำ “ขาย” โดยหุ้นในกลุ่มธนาคาร บล.บัวหลวงชอบ BBL และ KTB มากกว่า

.

บล.กสิกรไทยระบุว่า ส่วนต่างกำไรในการรองรับ DPS ลดลง

บล.กสิกรไทยปรับลดคำแนะนำเป็น "ขาย" และปรับลดราคาเหมาะสมเหลือ 83 บาท จาก 94 บาท เนื่องจากบล.กสิกรไทยเชื่อว่าเงินปันผลต่อหุ้นที่ระดับ 7.75 บาทมีส่วนต่างกำไรที่รองรับค่อนข้างเบาบาง บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรครึ่งปีหลัง 2568 จะลดลงเล็กน้อย HoH จาก credit cost ที่สูงขึ้น และ non-NII ที่ลดลง การปรับลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะเป็นผลดีต่อต้นทุนเงินทุน แต่การเติบโตของสินเชื่อน่าจะชะลอตัวในครึ่งปีหลัง 2568

บล.กสิกรไทยปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2570 ลง 2-3% เพื่อสะท้อน credit cost ที่สูงขึ้นและสมมติฐาน non-NII ที่ต่ำลง ซึ่งได้รับการชดเชยบางส่วนจากแนวโน้ม CIR ที่ลดลง

.

บล.ดาโอระบุว่า กำไรไตรมาส 2/68 ลดลงทั้ง YoY/QoQ จากสำรองฯ เพิ่มตามคาด
บล.ดาโอยังคงคำแนะนำ "ถือ" TISCO และราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 94.00 บาท อิง 2568 PBV ที่ 1.75 เท่า (+0.50SD เหนือค่าเฉลี่ย 10 ปีของ PBV) โดยบล.ดาโอมองเป็นกลางทั้งจากกำไรไตรมาส 2/68 ที่ตามคาด และการประชุมนักวิเคราะห์ที่เป้าหมายโดยรวมยังใกล้เคียงคาด โดยกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.64 พันล้านบาท (-6% YoY, ทรงตัว QoQ) จาก NIM ที่ดีกว่าคาด แต่มีสำรองฯ ที่สูงกว่าคาด ด้าน NPL อยู่ที่ 2.41% ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่ 2.42% แต่มูลค่า NPL เพิ่มขึ้น +1% จากจำนำทะเบียนรถและสินเชื่อเช่าซื้อ

ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่า

  1. NIM ใน ครึ่งปีหลัง 2568 จะฟื้นตัวได้จากแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ยลดลง และโครงการ “คุณสู้เราช่วย” มีผลกระทบไปหมดแล้วใน ครึ่งปีแรก 2568
  2. สินเชื่อ ครึ่งปีหลัง 2568 จะเน้นที่ Low risk และ Low yield เพราะสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยจะเน้นสินเชื่อรายใหญ่ และจะกลับมารุกสินเชื่อเช่าซื้อมากขึ้น
  3. โครงการ “คุณสู้เราช่วย” เฟส 2 น่าจะเห็นลูกหนี้ที่เข้าเพิ่มได้อีกไม่เกิน 1 พันล้านบาท จาก ไตรมาส 2/68 ที่เข้ามาแล้ว 4 พันล้านบาท โดยผู้บริหารคาดว่าเมื่อครบกำหนด 3 ปี จะมีผลขาดทุนต่องบกำไรขาดทุน เพราะมีลูกหนี้บางส่วนเกิด Moral hazard ขณะที่คาดว่า Best case คือเท่าทุน

กำไรสุทธิ ครึ่งปีแรก 2568 คิดเป็น 51% ของประมาณการทั้งปี ทำให้บล.ดาโอยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 อยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท ลดลง -7% YoY จากสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บล.ดาโอคาดว่าแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/68 มีโอกาสที่จะลดลงทั้ง YoY และ QoQ ต่อจากสำรองฯ ที่จะเพิ่มขึ้นตามสินเชื่อผลตอบแทนสูงที่เพิ่มขึ้น

ราคาหุ้นลดลง -3% และ -2% ช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET ตามสภาวะตลาดหุ้น ขณะที่ TISCO ยังยืนยันที่จะจ่ายปันผลในระดับสูงอย่างต่อเนื่องแม้ว่าแนวโน้มกำไรจะลดลง ทั้งนี้บล.ดาโอคาดว่า TISCO จะยังคงเป็นหุ้นที่มี Dividend yield สูงถึงระดับราว 8% (จ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง โดยจะ XD ช่วงเดือน ก.ย. และ เม.ย.)

.

บล.พายมองว่า TISCO มีเงินปันผลสูงชดเชยการเติบโตที่อ่อนแอ
บล.พายคงคำแนะนำ "ถือ" และปรับมูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นเป็น 102 บาท (จาก 100 บาท)
คำนวณด้วยวิธี GGM (ROE 15.5%, Terminal growth 2%) อิง 1.9 เท่า PBV ปี 2568 หรือ +0.5SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี (2558-2567)

ด้านกำไรสุทธิใน ไตรมาส 2/68 ออกมาดีกว่าที่ 1.64 พันล้านบาท (-6% YoY, ทรงตัว QoQ) แม้มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2568-2570 ดีขึ้น แต่คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2568 จะปรับลดลงต่อเนื่อง 4% YoY และมองว่าแนวโน้มกำไรใน ครึ่งปีหลัง 2568 จะทรงตัว HoH แต่จะปรับลดลง YoY เพราะสำรองหนี้ฯ เพิ่มขึ้น ขณะที่คาดว่ากำไรจะกลับมาขยายตัว 3.9% ในปี 2569 และ ROE กลับมาขยายตัว

อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวใน ครึ่งปีหลัง 2568 ยังเป็นความท้าทายต่อการเติบโตในอนาคต และคุณภาพสินเชื่อ แต่คาดว่าผลตอบแทนเงินปันผลสูง 7.8% ในปี 2568 จะจำกัดความเสี่ยงราคาหุ้นผันผวนได้




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X