> เคาะไปคุยไป > CPF

11 กรกฎาคม 2025 เวลา 05:50 น.

เคาะไปคุยไป : เคาะ CPF

#CPF#ทันหุ้น-ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 144,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน โดย 62% มาจากกิจการต่างประเทศ และ 38% จากในประเทศ หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ซึ่งหลัก ๆ มาจากธุรกิจในไทย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และจีน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 642% จากปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากราคาสุกรในหลายประเทศที่สูงขึ้นจากภาวะสมดุลตลาดและโรคระบาด การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม โดยเฉพาะธุรกิจในจีนและแคนาดาที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน


สำหรับราคาสุกรในประเทศและต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในประเทศไทยราคาสุกรเฉลี่ยอยู่ที่ 86.67 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 25% YoY จากอุปทานที่ลดลงตามรอบการผลิตหลัง ASF ปี 2567 และความต้องการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่ราคาสุกรในจีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเวียดนามที่ราคาเฉลี่ย เม.ย.-พ.ค. พุ่งแตะ 67,884 ดองต่อกก. เพิ่มขึ้น  8%YoY และจีนที่ราคาสุกรใกล้จุดคุ้มทุน CPF ที่ CNY14.5ต่อกก. จากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ทำให้คาดการณ์ว่าแนวโน้มผลงาน 2Qมีโอกาสทำ New Highและเป็นจุดสูงของปี


ด้านผู้บริหาร ระบุว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ จำกัด เนื่องจากมีฐานการผลิตในสหรัฐ อยู่แล้วและมูลค่าการส่งออกจากไทยต่ำ ขณะเดียวกันยอมรับว่าต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบบางรายการเพิ่มขึ้น พร้อมแนะรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือระยะสั้น เช่น เงินกู้เฉพาะกิจ และส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตระยะยาว นอกจากนี้เสนอให้ภาครัฐสนับสนุนการลงทุนของไทยในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะการมีพันธมิตรท้องถิ่นและข้อมูลตลาดเชิงลึก รวมถึงให้ BOI ออกมาตรการหนุนการขยายการลงทุนต่างแดน


#CPF#ทันหุ้น-ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 144,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน โดย 62% มาจากกิจการต่างประเทศ และ 38% จากในประเทศ หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน รายได้จะเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ซึ่งหลัก ๆ มาจากธุรกิจในไทย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และจีน ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 8,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 642% จากปีที่แล้ว ปัจจัยหลักมาจากราคาสุกรในหลายประเทศที่สูงขึ้นจากภาวะสมดุลตลาดและโรคระบาด การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม โดยเฉพาะธุรกิจในจีนและแคนาดาที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน


สำหรับราคาสุกรในประเทศและต่างประเทศปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในประเทศไทยราคาสุกรเฉลี่ยอยู่ที่ 86.67 บาทต่อกก. เพิ่มขึ้น 25% YoY จากอุปทานที่ลดลงตามรอบการผลิตหลัง ASF ปี 2567 และความต้องการบริโภคที่ฟื้นตัว ขณะที่ราคาสุกรในจีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเวียดนามที่ราคาเฉลี่ย เม.ย.-พ.ค. พุ่งแตะ 67,884 ดองต่อกก. เพิ่มขึ้น  8%YoY และจีนที่ราคาสุกรใกล้จุดคุ้มทุน CPF ที่ CNY14.5ต่อกก. จากอุปสงค์ที่อ่อนแอ ทำให้คาดการณ์ว่าแนวโน้มผลงาน 2Qมีโอกาสทำ New Highและเป็นจุดสูงของปี


ด้านผู้บริหาร ระบุว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากภาษีสหรัฐ จำกัด เนื่องจากมีฐานการผลิตในสหรัฐ อยู่แล้วและมูลค่าการส่งออกจากไทยต่ำ ขณะเดียวกันยอมรับว่าต้นทุนนำเข้าวัตถุดิบบางรายการเพิ่มขึ้น พร้อมแนะรัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือระยะสั้น เช่น เงินกู้เฉพาะกิจ และส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตระยะยาว นอกจากนี้เสนอให้ภาครัฐสนับสนุนการลงทุนของไทยในต่างประเทศเพื่อกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะการมีพันธมิตรท้องถิ่นและข้อมูลตลาดเชิงลึก รวมถึงให้ BOI ออกมาตรการหนุนการขยายการลงทุนต่างแดน


แนะนำ “เคาะ” ครับ ระยะสั้นปรับลงสร้างจุดต่ำ 21.10 และมีแรงซื้อกลับคืนด้วยแท่งเทียนโดจิ การเรียงตัวแท่งเทียนไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าต่อเนื่องแนวโน้มรูปแบบ Morning Star แนวรับระหว่างวันเน้นยืน 21.80-21.70 แนวต้านSMA13วัน 22.30 ผ่านยืนและมีVolumeเพิ่มเป็นสัญญาณซื้อยืนยันรูปแบบ


คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 22.30/23.20
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 21.70/21.10 ไม่ควรต่ำกว่าว่า
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X