#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,110 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1,140 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,110 ลงไป จะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,100
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ THCOM หรือ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจในกลุ่มธุรกิจหลัก 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. ธุรกิจดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่อง 2. ธุรกิจอินเทอร์เน็ตและสื่อ 3. ธุรกิจโทรศัพท์ในต่างประเทศ 4. ธุรกิจร่วมทุนอื่น
THCOM รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2568 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานจำนวน 144 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ 124 ล้านบาท จากไตรมาส 4/2567 ที่มีกำไรจำนวน 20 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 132 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2567 (YoY) และหากพิจารณาเฉพาะธุรกิจด้านดาวเทียม บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมและส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจโทรคมนาคมจำนวน 180 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติ 36 ล้านบาท และปรับตัวเพิ่มขึ้น 111 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
บริษัทมีผลกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในไตรมาส 1/2568 จำนวน 119 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4/2567 (QoQ) และ ไตรมาส 1/2567 (YoY) เนื่องจากปัจจัยจากอัตราแลกเปลี่ยน จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นในไตรมาส 1/2568 โดยสถานการณ์การแข็งค่าของค่าเงินบาทดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก รวมถึงบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากต่างประเทศ บริษัทตระหนักถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบ เช่น การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2568 บริษัทรับรู้รายได้อื่นจำนวนทั้งสิ้น 240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาส 4/2567 (QoQ) และไตรมาส 1/2567 (YoY) ที่ (36) ล้านบาท และ 2 ล้านบาทตามลำดับ เป็นผลมาจากการที่บริษัทสามารถบริหารจัดการภาระผูกพันในอดีตที่เกี่ยวข้องกับอาคารและอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทไม่มีภาระผูกพันในการชำระเงินตามสัญญาดังกล่าว
บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 1/2568 จำนวน 500 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 9.4% จาก 552 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2567 (QoQ) และลดลง 17.9% จาก 609ล้านบาทในไตรมาส 1/2567 (YoY) โดยมีสาเหตุหลักมาจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม ("USO") ระยะที่ 2ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ("กสทช.") ที่ยังไม่กลับเข้าสู่ระดับปกติอย่างเต็มจำนวน หลังจากเกิดช่วงรอยต่อของสัญญาในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งรายได้จะทยอยเข้ามาในไตรมาสที่ 2/2568
โดยในปีนี้จะมีโครงการ USO ระยะที่ 3 ที่มีกรอบงบประมาณมากถึง 5.8 พันล้านบาท ซึ่งจะมีการให้บริการด้านดาวเทียมรวมอยู่ในโครงการนี้เช่นเดียวกัน โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมและดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น
ในไตรมาส 1/2568 บริษัทประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญากับ GISTDA มูลค่าราว 234 ล้านบาท เพื่อเป็นผู้จัดหาระบบจานสายอากาศสำหรับรับสัญญาณและควบคุมกลุ่มดาวเทียม THEOS ภายใต้โครงการจัดหาจานสายอากาศสำหรับรับสัญญาณและควบคุมดาวเทียม นอกจากนี้ เมื่อต้นเดือนเมษายนปี 2568บริษัทชนะประมูลโครงการควบคุมดาวเทียมสำหรับดาวเทียมไทยคม 4และไทยคม 6 จาก NT มูลค่ากว่า 118 ล้านบาท นับเป็นการตอกย้ำการเป็นบริษัทชั้นนำแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านดาวเทียมและเทคโนโลยีอวกาศระดับสูงมากว่า 30 ปี
สำหรับธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์ในต่างประเทศ ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในการร่วมค้าปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ มหาชน ("LTC") มีรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการปรับโครงสร้างราคาค่าบริการโทรคมนาคมของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร ทั้งนี้ แม้ว่าสกุลเงินกีบจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 1/2568บริษัทยังคงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในการร่วมค้า เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายที่ บริษัท เชนนิงตัน อินเวสเม้นท์ส พีทีอี จำกัด
นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ภาพรวมธุรกิจของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้บริษัทได้เซ็นสัญญากับบริษัทดาวเทียมรายใหม่ในประเทศอินเดียอย่าง ฮิวจ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ (HUGHES) ซึ่งบริษัททยอยรับรู้รายได้มาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา โดยดาวเทียม THAICOM 8 ไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในประเทศอินเดีย ซึ่งบริษัทมีแผนที่จะส่งดาวเทียม THAICOM 9 , 10ขึ้นสู่วงโคจรในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันบริษัทมีใบอนุญาตจากอินเดียสำหรับการให้บริการ THAICOM 4 , 8 และ 9
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม(USO 3) ที่มีกรอบงบประมาณ 5,800 ล้านบาท ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งขณะนี้ได้มีการประกาศข้อกำหนด TOR เรียบร้อยแล้ว และ คาดว่า การประมูลจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2568โดยบริษัทจะเข้าร่วมในฐานะผู้ดำเนินโครงการหลัก ซึ่งหากไทยคมได้รับงานในโครงการ USO 3จะเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถให้บริการแก่ผู้ประกอบการรายอื่นที่ได้รับงานโครงการดังกล่าวเพิ่มเติม
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาลงที่ 7.50 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 8.40 และ 9.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 7.00 ลงไป จะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม