26 มิถุนายน 2025 เวลา 06:50 น.
#THCOM #ทันหุ้น - ในไตรมาส 1/2568 บริษัทไทยคมมีกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 144 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสก่อน (QoQ) และช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยเฉพาะในธุรกิจหลักด้านดาวเทียมที่ทำกำไรจากการดำเนินงานสูงถึง 180 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111 ล้านบาท YoY สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนและความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง แม้ว่ากำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่จะอยู่ที่ 119 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน อันเนื่องมาจากผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลต่อรายได้ที่มาจากต่างประเทศ อย่างไรก็ดีบริษัทได้มีการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
รายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาสนี้อยู่ที่ 500 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อนหน้า เนื่องจากยังอยู่ในช่วงรอยต่อของการรับรู้รายได้จากโครงการ USO ระยะที่ 2 ของ กสทช. อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เริ่มรับรู้รายได้อื่นจำนวน 240 ล้านบาทจากการบริหารภาระผูกพันในอดีตที่เกี่ยวข้องกับอาคารและอุปกรณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเตรียมความพร้อมรองรับโครงการ USO ระยะที่ 3 ซึ่งมีวงเงินกว่า 5.8 พันล้านบาท โดยมีบริการด้านดาวเทียมรวมอยู่ด้วย คาดว่าจะเป็นแรงขับเคลื่อนรายได้หลักในช่วงต่อไปของปี 2568
THCOM ได้ขยายตลาดเข้าสู่ภาคเอกชนของอินเดีย โดยการเซ็นสัญญากับ Hughes Communications India (HCI) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยเริ่มต้นจากการใช้บริการดาวเทียมไทยคม 8 ซึ่ง HCI เหมาใช้งาน 50% ของความจุสำหรับอินเดีย และทยอยโอนลูกค้าจากดาวเทียมดวงอื่นมาใช้งานตั้งแต่ 1 เม.ย. ความต้องการในอินเดียที่สูงมากส่งผลให้ THCOM มีแผนเสริมกำลังด้วยไทยคม 9 และ 10 ในอนาคต ทั้งนี้ THCOM ได้รับอนุญาตให้ให้บริการดาวเทียมไทยคม 4, 8, 9 แล้ว และอยู่ระหว่างรออนุมัติไทยคม 10 โดยมองว่าแม้ Starlink จะเริ่มรุกตลาดอินเดียและร่วมมือกับ Telecom 2 ราย แต่ด้วยกระบวนการอนุมัติที่ซับซ้อนและกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน (Starlink เน้นผู้บริโภคทั่วไป ส่วน THCOM เน้นภาครัฐและความมั่นคง) ทำให้บริษัทมั่นใจว่าไทยคม 9 และ 10 จะไม่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันโดยตรง อย่างไรก็ดี ยังมีโอกาสร่วมมือกับ Starlink ในไทยที่ไทยคมมองว่าดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) อย่าง Starlink จะเป็นตัวเสริมธุรกิจนอกเหนือจากวงโคจรประจำที่ (GEO)
ด้าน Bloomberg Consensus ประเมินกำไรสุทธิปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไร โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 13.14 บาท ในเชิง Valuation มีความน่าสนใจ โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน Fwd EV/EBITDA 25Fเท่ากับ 5.4 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มระดับภูมิภาคที่ 13.5%
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นแท่งเทียนสีขาวยาว 2 แท่งเทียนกลับตัวขึ้นต่อเนื่องจากแท่งเทียนโดจิ แนวโน้มขึ้นรูปแบบ Morning Star แนวรับระหว่างวัน 7.40-7.30 แนวรับหลัก Neck Line 6.95-6.90 (เน้นยืนเหนือได้เท่านั้น) แนวต้านจุดทดสอบ 8.00-8.10 และแนวต้านจุดสูงรอบก่อนหน้า 8.55
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 8-8.10/8.55
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 7.40-7.30/6.95-6.90ไม่ควรต่ำกว่า
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม