01 กรกฎาคม 2025 เวลา 06:40 น.
#BDMS #ทันหุ้น - ในไตรมาส 1 รายได้รวมของบริษัทเติบโต 6% อยู่ที่ 28,453 ล้านบาท โดยมีรายได้หลักจากโรงพยาบาลซึ่งคิดเป็นกว่า 90% ของรายได้รวม ผู้ป่วยคนไทยเติบโต 4% (69% ของรายได้) ส่วนผู้ป่วยต่างชาติเติบโตโดดเด่นที่ 11% (31% ของรายได้) โดยเฉพาะโรงพยาบาลต่างจังหวัดเติบโตสูงถึง 8% และมีแนวโน้มเพิ่มสัดส่วนเป็น 50% จากเดิม 47% ขณะที่รายได้จากผู้ป่วยใน (IPD) และผู้ป่วยนอก (OPD) เติบโต 7% และ 5% ตามลำดับ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7% โดยมี Net Profit Margin ที่ 15.3% ส่วน EBITDA และ EBIT Margin อยู่ที่ 25.4% และ 19.9% ตามลำดับ การเติบโตของกำไรได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น การควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ และการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากโครงการ BOI อย่างต่อเนื่อง
แนวโน้ม 2Q/68 รายได้และกำไรสุทธิ ชะลอลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล แต่ยังสามารถเติบโตได้ดี YoY แม้ว่าช่วง เม.ย. รายได้จะชะลอลง โดยเฉพาะคนไข้ต่างประเทศตามโซนท่องเที่ยวรับผลกระทบจากภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ดีในช่วง พ.ค.-มิ.ย. เห็นการฟื้นตัวกลับเข้ามา โดยยังเห็นการเติบโตได้ดีในคนไข้ตะวันออกกลาง ยุโรป USA และ เมียนมา ด้านปัญหาเขตชายแดนกระทบคนไข้กัมพูชา แต่ไม่ได้มีนัยมากนัก ขณะที่รายได้จากคนไทยมีปัจจัยกดดันจากแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอลง แต่มองว่าได้ปัจจัยหนุนจากฝนที่ตกเร็วกว่าปกติ มีการระบาดของไข้หวัด หนุนรายได้ OPD เบื้องต้นประเมินรายได้และกำไรสุทธิ เท่ากับ 2.7 หมื่นล้านบาท และ 3.7 พันล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 6.0% และ 11.1% ตามลำดับ ด้านอัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ระดับ 36.0% ดีขึ้นกว่าช่วง 2Q/68 ที่ 35.2%
ด้านผู้บริหารมองการเติบโตของรายได้ทั้งปีลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2-3 เท่า ของ GDP หรือ 4-6% จากเดิม 7-8% โดยเป้ามีความ Conservative มากขึ้น จากความระมัดระวังในส่วนของรายได้คนไทยที่ชะลอลงจากผลของภาวะเศรษฐกิจ ด้านคนไข้ต่างชาติมีความระมัดระวังมากขึ้นจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ขณะที่เรายังคงประมาณการเดิมที่รายได้และกำไรสุทธิ เท่ากับ 115,304 ล้านบาท และ 17,037 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 6.9% และ 6.6% ตามลำดับ คงแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 32.00 บาทต่อหุ้น Upside ปัจจุบันน่าสนใจ และเป็นแหล่งพักเงินที่ดีในช่วงตลาดหุ้นผันผวน
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นกลับตัวขึ้นยืนเหนือ SMA 5 วัน และSMA 13 วันได้มั่นคงบริเวณ 20.70-20.50 แนวโน้มมีโอกาสที่จะจบรอบกรอบแกว่งตัวขาลง แนวต้านสำคัญ 21.00 ผ่านยืนและมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นตามกันเป็นสัญญาณชี้นำจบรูปแบบ แนวต้านจุดทดสอบ Double Top เดิม 21.60 และแนวต้านจุดสูง 22.00
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 21/21.60/22
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 20.50/20.10 ไม่ควรต่ำกว่า
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม