#HMPRO #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่แนวต้าน 1,100 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับสำคัญที่ 1,055-1,060 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,120 และ 1,150 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 1,080 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,060

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ HMPRO หรือ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ตกแต่ง ต่อเติม ซ่อมแซม ปรับปรุง อาคาร บ้าน และที่อยู่อาศัยแบบครบวงจร

HMPRO เปิดเผยผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 1,707.38 ล้านบาท ลดลง 5.46 ล้านบาท หรือ 0.32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

โดยรายได้รวมอยู่ที่ 18,654.46 ล้านบาท ลดลง 133.11 ล้านบาท หรือ 0.71% ซึ่งรายได้จากสัญญาที่ทำกับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วยรายได้จากการขายสินค้า และรายได้จากการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวม 17,547.44 ล้านบาท ลดลง 116.40 ล้านบาท หรือ 0.66% เป็นผลมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ วงเงินในการใช้จ่ายภายใต้โครงการ E-Receipt  ที่ลดลงสำหรับร้านค้าทั่วไป จำนวนวันทำการของเดือนกุมภาพันธ์ที่น้อยกว่าปีก่อนหน้า รวมถึงจากที่ประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูร้อนล่าช้า และมีฝนตกในหลายพื้นที่ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ในสินค้าประเภทเครื่องทำความเย็น มีการปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ด้านรายได้ค่าเช่า 471.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.46 ล้านบาท หรือ 4.54% จากปีก่อน เป็นผลมาจากการจัดเก็บรายได้ค่าเช่าพื้นที่เช่าในสาขาของโฮมโปรและศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจได้มากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ส่วนกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวม 4,594.69 ล้านบาท ลดลง 40.64ล้านบาท หรือ 0.88% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย ลดลงจาก 26.24% ในปีก่อน มาอยู่ที่ 26.18% เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงส่วนผสมของกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการทำกำไรสูง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้า Private Brand ซึ่งมีสัดส่วนการขายลดลงในไตรมาส 1

สำหรับการขยายสาขาในไตรมาส 1 บริษัทยังไม่มีการเปิดสาขาทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 1/68 บริษัทมี โฮมโปร 94 สาขา โฮมโปร เอส 5 สาขา เมกาโฮม 30 สาขา และโฮมโปรในประเทศมาเลเซียอีก 7 สาขา

นายรักพงศ์  อรุณวัฒนา  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์ กลยุทธ์ และความยั่งยืนองค์กร บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ในปี 2568 บริษัทยังคงเน้นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า และปรับปรุงสินค้าภายในร้าน รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายในทุกๆ ส่วนงาน เนื่องจากปีนี้ยังมีความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศ และทั่วโลก โดยในประเทศประสบปัญหากำลังซื้อที่ชะลอตัว และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ส่วนของโลกเจอปัญหาด้านกำแพงภาษีของสหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ผลงาน Q1/68 ต้องยอมรับว่ามีปัจจัยที่เข้ามากระทบพอสมควร โดยเฉพาะยอดขายเครื่องปรับอากาศ พัดลม ที่ลดลง เมื่อเทียบจากปีก่อน เพราะปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงไป มีฝนตกที่ยาวนาน และมาเร็วกว่าปีก่อนที่ฤดูร้อนมาเร็วกว่าคาด และ เรายังเห็นว่า พอเข้าเดือนเม.ย. และ พ.ค. สถานการณ์ก็ยังไม่เปลี่ยนไป

ในขณะที่การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เดือน เม.ย. 68 ยังติดลบอยู่ เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1/68 ที่ -3.3% โดยสาเหตุเกิดจากยอดขายเครื่องปรับอากาศที่ลดลง จากสภาพอากาศที่ไม่ร้อนเท่าปีก่อน

สำหรับแผนเปิดสาขาในปี 2568 อยู่ที่ 12 สาขา รวมเป็น 148 สาขา ทั้ง Hybrid Store และ สาขาในทำเลใหม่ โดยเริ่มเปิดสาขาในช่วงไตรมาส 2/68  HomePro (Hybrid Store) 1สาขาที่บ่อวิน และ มีแผนเปิด 4 สาขาทำเลใหม่ (HomePro 1 สาขา Mega Home 1 สาขา และ HomePro กับ Mega Home ในทำเลเดียวกัน 1 ที่) และ 7 สาขา รูปแบบ Hybrid ในช่วงครึ่งปีหลัง Hybrid Store แบ่งเป็น HomePro 4 สาขา และ Mega Home 3 สาขา

ส่วนความคาดหวังที่จะได้รับปัจจัยบวกในการซ่อมบ้านจากแผ่นดินไหวนั้น ยอมรับว่าขณะนี้ 1 เดือนผ่านไป ยอดคำสั่งซื้อยังไม่มีเข้ามาอย่างมีนัย เพราะยังเป็นช่วงการประเมินโครงสร้าง เคลมประกันของหลายแห่ง ทำให้การซื้อยังหยุดชะงัก ประกอบกับความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเป็นกลุ่ม งานฝ้า งานสี ที่มูลค่าไม่สูงมาก แต่สิ่งที่จะส่งผลบวกต่อบริษัท น่าจะมาจากตัวค่าแรงช่างมากกว่า

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 5.90-6.00 ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.60 เป็นแนวต้านสำคัญ แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 5.90 ลงไป จะที่แนวรับถัดไปที่ 5.20

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews 

Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial 

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/