#OSP #ทันหุ้น - OSP ปักธงปั้นกำไรโตสองหลักเพื่อจัดปันผลในอัตราที่ดี ส่วนรายได้คาดโต Low Single Digit รับไตรมาส 2/2568 ท้าทายแต่พร้อมขยายตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง เสริมด้วยการตลาดเฉพาะกลุ่ม แถมตลาดต่างประเทศในเมียนมาและลาวโตดี พร้อมมองหาซื้อกิจการเพิ่ม แต่ไม่รีบตัดสินใจ ไร้แผนซื้อหุ้นคืน
นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ประกอบธุรกิจหลักด้านผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ของใช้ส่วนบุคคล ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และลูกอม เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้าหมายการขยายตัวรายได้ปี 2568 ไว้ที่ระดับ 1-4% (Low Single Digit) แต่ในส่วนกำไรจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนสองหลัก (Double Digits) ส่วนระยะยาวปี 2571 คงเป้ารายได้แตะ 4 หมื่นล้านบาทและครองส่วนแบ่งการตลาดในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังเป็นอันดับ 1 ต่อไป
ล่าสุด ณ สิ้นเดือนเมษายน 2568 ส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 45% จากปลายปีก่อนอยู่ที่ 44.5%ในเดือนธันวาคม 2567 สะท้อนถึงความสำเร็จของการบริหารกลยุทธ์แบรนด์พอร์ตโฟลิโอที่ช่วยฟื้นโมเมนตัมให้แบรนด์ M-150 และหลังจากบริษัทเปิดตัว M-150 ฝาเหลือง ลิมิเต็ด เอดิชัน ในช่องทาง Traditional Trade เมื่อต้นปี ทำให้ M-150 รักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มียอดขายและส่วนแบ่งการตลาดเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 31.5% จากข้อมูลถึงเดือนเมษายน 2568 ด้วย
@ไตรมาส 2 ท้าท้าย
สำหรับแนวโน้มไตรมาส 2/2568 บริษัทประเมินมีความท้าทายหลายด้าน แต่ด้วยการทำการตลาดที่เฉพาะเจาะจงกับลูกค้ามากขึ้น รวมถึงการมีสินค้าใหม่เข้ามาสร้างสีสันในตลาดอย่างต่อเนื่องทุกไตรมาสจะสนับสนุนให้บริษัทยังเป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์ในแต่ละแบรนด์ที่ได้รับความนิยมต่อไป
ทั้งนี้บริษัทเดินหน้าขับเคลื่อนกลยุทธ์ Brand Portfolio อย่างต่อเนื่อง เช่น แบรนด์โสมอินซัมที่เติบโตโดดเด่นในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และแบรนด์ฉลามที่ครองใจผู้บริโภคในภาคเหนือและใต้อย่างเหนียวแน่น รวมถึงการบุกตลาดพรีเมียมผ่านแบรนด์ Lipo และ M-150 Sparkling ตอบโจทย์ผู้บริโภคหลากหลาย ใช้กลยุทธ์ราคาที่ครอบคลุม ตั้งแต่ระดับเข้าถึงง่าย 10 บาท ไปจนถึงระดับกลางและพรีเมียมที่ 12–20 บาท เพื่อขยายฐานผู้บริโภค ต่อยอดแคมเปญที่เชื่อมโยงกับอินไซด์ของผู้บริโภคจริง เช่น "ปลดหนี้ทุกชั่วโมง" ยกระดับประสบการณ์แบรนด์และสร้างความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับผู้บริโภคในวงกว้าง
@ควบคุมต้นทุน
บริษัทยังได้เพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบและสาธารณูปโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง และควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารควบคู่กับการใช้งบประมาณด้านการสร้างแบรนด์อย่างคุ้มค่าและได้ผล ร่วมกับการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้ของตลาดในต่างประเทศทั้งในกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลังและกลุ่มผลิตของใช้ส่วนบุคคลที่มีอัตรากำไรสูง ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิเติบโตต่อไป
อีกทั้งจะเน้นใช้เงินอย่างระมัดระวัง แม้ว่าบริษัทอยู่ระหว่างมองหากิจการเพื่อซื้อเข้ามาต่อยอดธุรกิจปัจจุบันแต่บริษัทก็จะพิจารณารอบคอบโดยไม่กำหนดชัดเจนว่าจะต้องรีบสรุปดีลเมื่อใด
@ต่างแดนหนุนโต
ทางด้านตลาดในต่างประเทศกลุ่มธุรกิจหลักอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเติบโตจากเมียนมา และลาว อีกทั้งกลุ่มของใช้ส่วนบุคคลก็เติบโตเช่นกัน รวมถึงที่อินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน บริษัทก็จะทำการตลาดเพิ่มเติมให้มากขึ้นด้วย
ขณะที่นโยบายภาษีการค้าตอบโต้ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังถือเป็นความไม่แน่นอน แต่ก็ยังไม่กระทบเชิงลบกับผลประกอบการบริษัท อีกทั้งในทางกลับกันลูกค้าบางรายในต่างประเทศอาจตัดสินใจเร่งซื้อสินค้าตุนเผื่อก่อน และบริษัทคาดหวังช่วงหลัง 90 วันตามกำหนดสถานการณ์สงครมการค้าจะได้ข้อสรุปเชิงบวก
นอกจากนี้ในด้านการบริหารจัดการเงินสดในกิจการ บริษัทไม่มีแนวทางจะนำไปทำโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อผลักดันราคาหุ้น OSP ให้ปรับขึ้น เพราะเชื่อว่า การมีกำไรที่ดีและมั่นคง จะทำให้ราคาหุ้นในระยะยาวสะท้อนภาพบวกได้เอง และบริษัทยังยึดนโยบายปันผลสูง ซึ่งตามนโยบายคือ ไม่น้อยกว่า 60% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมเมื่อหักสำรองเงื่อนไขต่าง โดยที่ผ่านมาบริษัทก็ปันผลเกินนโยบายรอบพิจารณาล่าสุดที่จะจ่ายต่อหุ้น 0.30 บาทในวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 ก็ปันผลจากกำไรสุทธิและกำไรสะสม
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม