#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1,460 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 1,470 แต่ไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับที่ 1,455 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,440
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BCP หรือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการค้าน้ำมัน และธุรกิจการตลาด รวมถึงลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 ขาดทุนสุทธิ 2,093 ล้านบาท คิดเป็นขาดทุนต่อหุ้น 1.61 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 11,011 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 7.91 บาท
ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 2,167 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.30 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 66 มีกำไรสุทธิ 14,210 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 10.09 บาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 67 สร้างสถิติใหม่ของรายได้จากการขายและการให้บริการ รวม 447,631 ล้านบาท เติบโตกว่า 84%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมียอดจำหน่ายน้ำมันเติบโตก้าวกระโดดกว่า 10,000 ล้านลิตร และกลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติที่สร้างสถิติรายได้สูงสุดจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น มี EBITDA 33,499 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
กำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 2,168 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.30 บาท และมีการรับรู้ Inventory Loss (รวม NRV) 4,683 ล้านบาท หรือ 1.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าการกลั่นพื้นฐานและราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง แต่คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ทั้งปีบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้มากกว่า 500,000 ล้านบาท
ตลอดระยะเวลากว่า 1 ปี ภายหลังจากได้ บมจ.บางจาก ศรีราชา (BSRC) เข้ามาเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 กลุ่ม BCP ประสบความสำเร็จในการสร้าง Synergy เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มจากการรับรู้ Synergy ให้บริษัทมียอดสะสมสูงถึง 4,400 ล้านบาทภายใน 9 เดือนแรกของปี 67 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,500ล้านบาทอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกลยุทธ์ที่กลุ่ม BCP วางไว้ และสร้างความมั่นใจในการปรับเป้าหมาย Synergy ใหม่ให้สูงขึ้นเป็น 5,000 ล้านบาทในปี 67 และ 5,500 ล้านบาทในปี 68และในปีถัด ๆ ไป เป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของกลุ่ม BCP ในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับไตรมาส 4คาดกว่าค่าการกลั่นจะปรับตัวสูงขึ้น และกำลังเข้าช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 กลุ่ม BCP มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 154,193 ล้านบาท ลดลง 2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมี EBITDA 7,427 ล้านบาท ลดลง 31%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 46%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาสนี้รับรู้ผลขาดทุนส่วนของบริษัทใหญ่ 2,093ล้านบาท
ฐานะการเงินของกลุ่ม BCP ณ วันที่ 30 ก.ย.2567มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 30,707 ล้านบาท และมีสินทรัพย์รวม 329,441 ล้านบาท ลดลง 10,988 ล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ 31 ธ.ค.66 มีหนี้สินรวม 243,875 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 3,478 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้นรวม 85,566 ล้านบาท ลดลง 14,466 ล้านบาท โดยหลักมาจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน (Perpetual Bond) ที่ถูกจัดประเภทใหม่เป็นหุ้นกู้ที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี ภายหลังจากบริษัทยืนยันการไถ่ถอนในเดือน ต.ค.67โดยเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนของบริษัทใหญ่ 58,437 ล้านบาท และมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นในระดับที่ยังแข็งแรงที่ 1.18 เท่า
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม