CK รอภาครัฐเปิดประมูลโครงการใหม่ โบรกฯคาดครึ่งปีหลังฟื้นตัว

#CK#ทันหุ้น - บล.เคจีไอ วิเคราะห์หุ้น CK ระบุว่า CH Karnchang และ Bangkok Expressway and Metro (BEM)ใน 3Q67 ได้ลงนามในโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มมูลค่า 1.09 แสนล้านบาทและ CK ยังได้เซ็นสัญญา โครงการน้ำประปาของ TTW Plc (TTW) มูลค่า 448 ล้านบาท แต่ว่า Sino-Thai Engineering and Construction (STEC)ได้เลื่อนการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ขนาดใหญ่ออกไปเป็น 4Q67

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้เผยโครงการต่าง ๆ มูลค่ารวม 7.27 แสนล้านบาท (85% เป็นงานก่อสร้างโยธาและระบบ) รวมถึงรถไฟ ทางด่วน และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน โดยที่ส่วนใหญ่ของโครงการต่าง ๆ เหล่านี้อยู่ในแผนงานมาหลายปี ขณะที่ ราว 40% รอการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีอีก 56% รวมถึงรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน อยู่ในขั้นตอน EIA และ PPP ดังนั้นมีเพียง 4% เท่านั้นที่พร้อมเปิดประมูลในปี 2567

ในช่วงไตรมาสที่4 ปี67 CK ยังไม่รีบหาโครงการใหม่ ๆ เนื่องจากมีงานรับเหมาในมือ(backlog) สูงเป็นประวัติการณ์เกินกว่า 2.00 แสนล้านบาท ส่วน STEC มีโครงการต่าง ๆ จากภาคเอกชนมูลค่ารวมที่ 2.7 หมื่นล้านบาท (7.2 พันล้านบาทเป็น data center, 6 พันล้านบาทสำหรับพลังงานทดแทนและอีก 1.4 หมื่นล้านบาทเพื่อโครงการอื่น ๆ) รอเซ็นสัญญาใน 4Q67 ทั้งนี้ โครงการ data center ของ STEC เป็นประเภทไฮเปอร์สเกลที่มีความจุรวม 24MWใน 4 อาคาร นอกจากนี้ STEC กำลังรอการประกาศที่จะเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการทางด่วนใหม่ M7 มูลค่า 4.5 พันล้านบาท และ โครงการรถไฟทางคู่ขอนแก่น-หนองคายมูลค่า 3.0 หมื่นล้านบาท อีกทั้ง STEC ยังตั้งเป้าที่จะเป็น ผู้รับเหมาช่วงในโครงการของภาครัฐขนาดใหญ่ ๆ บางโครงการ ทั้งนี้ STEC ยังคงเป้าเดิมปีนี้สำหรับงาน backlog ใหม่มูลค่ารวม 4.0 หมื่นล้านบาท

บล.เคจีไอ มองว่าใน 3Q67 นี้มีแนวโน้มที่จะเป็นไตรมาสที่ดีอีกไตรมาสหนึ่งของ CK เพราะจะมีรายได้จากเงินปันผลสูงที่ 232 ล้านบาท จาก TTW ขณะที่ BEM ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของ CK ก็น่าจะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งทั้งเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และไตรมาสก่อนหน้า ในช่วง high season ส่วน CK Power (CKP) อาจเห็นดาวน์ไซด์ ในกำไร 3Q67F เนื่องจากการปิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางหลายครั้งท่ามกลางเพราะน้ำหลากฝนตกมากกว่าคาดการณ์ ทั้งนี้ กำไรของ CK โดยทั่วไปจะลดลงในช่วง low season ใน 4Q67 และ 1Q68

โดย CK กำลังรอเซ็นสัญญาทางด่วนยกระดับมูลค่า 3.5 หมื่นล้านบาทของ BEM อาจเซ็นภายในปี 2568 ส่วนกำไร 4Q67 ของ STEC บล.เคจีไอเชื่อว่าน่าจะเป็นกำไรสูงของปีนี้ หนุนจากการเซ็นสัญญา โครงการใหญ่หลายโครงการ นอกจากนั้น เรายังคาดส่วนแบ่งขาดทุนจากบริษัทร่วมที่ดำเนินการเดินรถไฟฟ้ารางเดี่ยว

สายสีชมพูและสายสีเหลืองจะลดลง ซึ่งบ่งชี้ว่ากำไร 2H67 ฟื้นตัว ทั้งนี้ วันที่ 21 ต.ค.67 จะเป็นวันสุดท้ายในการยื่นแบบฟอร์มเพื่อยอมรับการแลกเปลี่ยนหุ้น STEC ที่อัตราส่วน 1:1 เป็นSTECON โดยที่ บริษัท STECON Holding ใหม่นี้จะรวมธุรกิจหลายประเภทไว้ เช่น เทคโนโลยี (ศูนย์ข้อมูล), ไฟฟ้าและสาธารณูปโภค

นอกเหนือจากธุรกิจหลักด้านรับเหมาก่อสร้าง

แนวโน้มกำไร 2H67 ฟื้นตัว และกำลังจะเซ็นสัญญาโครงการใหม่ ๆ ทั้งนี้บล.เคจีไอแนะนำซื้อ STEC ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 10.40 บาท ส่วน CK บล.เคจีไอมองว่ากำไรน่าจะชะลอตัวใน 4Q67 และ 1Q68 หลังจากทำกำไรสูงสุดใน 3Q67

บล.เคจีไอคงคำแนะนำถือหุ้น CK และประเมินราคาเป้าหมายที่ 21.40 บาท โดยล่าสุดบล.เคจีไอเพิ่งปรับลดคำแนะนำหุ้น CKP ลงเป็นถือ และราคาเป้าหมายที่ 4.0 บาท เนื่องจากแนวโน้มกำไรมีดาวน์ไซด์ อย่างไรก็ดี บล.เคจีไอคงคำแนะนำซื้อ หุ้น BEM ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 11.20 บาท