#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 1445 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปเคลื่อนไหวในกรอบแคบเหนือระดับ 1430-1435 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1455-1460 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 1430 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค

สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BAM หรือ บริษัทบริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพและทรัพย์สินรอการขาย

ผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 67 มีกำไรสุทธิ 456 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.14 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 66 กำไรสุทธิ 425 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.13 บาท

ส่วนผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปี 67 มีกำไรสุทธิ 879 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.27 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงาน 6 เดือนของปี 66 มีกำไรสุทธิ 691 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.21 บาท

นายณสุ จันทร์สม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM เปิดเผยในงาน "Opportunity Day" ว่า บริษัทคงเป้าผลเรียกเก็บปี 2567 ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น NPL ประมาณ 10,000 ล้านบาท และ NPA ประมาณ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดเรียกเก็บแล้ว 7,493 ล้านบาท แบ่งเป็น NPL ที่ 4,142 ล้านบาท และ NPA ที่ 3,351 ล้านบาท โดยในช่วงที่เหลือยังมีผลเรียกเก็บคงเหลือ 12,507 ล้านบาท แบ่งเป็น NPL ที่ 5,858 ล้านบาท และ NPA ที่ 6,649 ล้านบาท

ภาพรวมผลเรียกเก็บครึ่งปีแรกอาจไม่เติบโตเท่าที่คาด แต่เชื่อว่า ครึ่งปีหลังจะดีขึ้น เพราะเป็นไฮซีซั่น และ เชื่อว่า การบริหาร NPA ด้วยการใช้กลยุทธ์ราคาพิเศษ เพื่อจูงใจผู้ซื้อทรัพย์ ได้ส่งผลดีต่อยอดจำหน่ายทรัพย์สินรอการขายในช่วงนี้ ประกอบกับ ยังมี backlog ที่รอรับรู้รายได้มากกว่า 800 ล้านบาทในไตรมาส 3

ส่วน บริษัท บริหารสินทรัพย์ อารีย์ จำกัด (บบส. อารีย์) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัท และ ธนาคารออมสิน มีสัดส่วนการถือหุ้น 50:50 และ มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 25 ล้านบาท โดยภายหลังได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์จากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะมีการเพิ่มทุนเป็น 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า บบส. อารีย์ จะเริ่มรับซื้อรับโอนหนี้ด้อยคุณภาพทั้งแบบมีหลักประกัน และ ไม่มีหลักประกันของธนาคารออมสินได้ในไตรมาส 3/67 โดยหวังว่า จะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต

ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ที่จะทำ JV AMC กับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งตามกำหนดจะต้องได้ข้อสรุปสิ้นปีนี้

บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และ มีแผนการบริหารงานสภาพคล่อง โดยในปี 2567 บริษัทได้ออกหุ้นกู้แล้ว 2 ครั้ง เป็นเงินรวม 7,240 ล้านบาท ซึ่งได้รับการการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนสถาบัน และ นักลงทุนรายใหญ่ โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย. 67 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับ 2.23 เท่า ซึ่งบริษัทมีกำหนดคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 จำนวน 6 ชุด มูลค่ารวม 11,800 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทได้ชำระคืนหุ้นกู้แล้ว 5 ชุด รวม 11,300 ล้านบาท

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านสำคัญที่ 9.70-10.00 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 6.20 ก่อนที่จะฟื้นตัวไปเคลื่อนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 8.30 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นมีความเสี่ยงในการปรับฐาน โดยมีแนวรับที่ 9.20 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 8.30

ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/