ตลาดขาลง หุ้นไหนน่าเก็บ?

#ทันหุ้น-ในวันจันทร์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นหลายๆ ประเทศปรับลงแรง รวมไปถึงประเทศไทยดัชนี SET ปรับลงมาถึง -38.41 จุด (-2.93%) ปิดที่ระดับ 1,274.67 จุด การปรับลงรอบนี้ได้รับผลกระทบจากนักลงทุนทั่วโลกกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะได้รับข่าวว่า อัตราการว่างงานสหรัฐแตะ 4.3% สูงสุดในรอบ 34 เดือน แม้ในช่วงทิศทางตลาดขาลงแบบนี้ นักลงทุนบางส่วนตัดสินใจเก็บเงินสดไว้ก่อน เพราะกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นขาลง ในทางกลับกันนักลงทุนอีกส่วนอาจเก็บหุ้นพื้นฐานดีเข้าพอร์ตเพื่อถือในระยะยาว เราจึงแนะนำหุ้นที่ราคาลงมาเยอะ และพื้นฐานดีอย่าง CPALL รับ 3 ประเด็นหนุน

1. นักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวหนุนเศรษฐกิจไทย จำนวนท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ที่ 1 ม.ค.-4 ส.ค. 67 เดินทางเข้ามาแล้ว 21 ล้านคน เฉลี่ย 99,270 คนต่อวัน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 990,835 ล้านบาท หากประเมินแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 67 อาจมากถึง 36.3 ล้านคน +29.06% (YoY) หากเทียบกับปี 66 ซึ่งมากกว่าที่ ธปท. ออกมาคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาประเทศไทยประมาณ 35 ล้านคน นอกจากนี้การประชุม ครม. มีมติผ่านงบ 433 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 67 มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายที่ 35 ล้านคน

2. โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเดินหน้าต่อหลังวุฒิสภามีมติเห็นชอบ ผ่านร่างงบรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 67 วงเงิน 1.22 แสนล้าน ส่วนหนึ่งทำโครงการเงินดิจิทัล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนใน Q4/67 โดยร้านค้าสะดวกซื้อ 7-ELEVEN มีโอกาสได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องจากมีสินค้าที่มากมายและมีสาขาทั่วประเทศถึง 14,545 สาขา ดันยอดขายของ CPALL และรับรู้รายได้เพิ่ม

3. ครม.ผ่านเงื่อนไขใหม่กองทุน TESG ลดหย่อนภาษีมากขึ้นโดยเพิ่มวงเงินการหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากค่าซื้อหน่วยลงทุนจากกองทุนดังกล่าว จาก 100,000 บาทต่อปีภาษี เป็น 300,000 บาทต่อปีภาษี แต่ไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน รวมทั้งลดเวลาถือครองหน่วยลงทุนเหลือไม่ต่ำกว่า 5 ปี จากเดิม 8 ปี ประกอบกับราคาหุ้นไทยอยู่ในระดับต่ำเป็น 2 แรงบวกที่ทำให้ผู้เสียภาษีมีโอกาสซื้อกองทุน TESG ในปีนี้สูง และ CPALL คือ หุ้นที่อยู่ใน TESG ได้ SET ESG Ratings ถึง AAA เป็นระดับสูงสุดของ SET ESG Ratings บ่งชี้ถึงบริษัทให้ความสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน และเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว ด้วยนโยบาย 7 Go Green มุ่งเน้นดำเนินงาน โดยส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม, 7Go Together มุ่งเน้นด้านการศึกษาและให้คุณค่าทางสังคม และ 7 Go Right มุ่งเน้นความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ ทั้งภายในองค์กรและภายนอกองค์กร

สรุปหุ้น CPALL ถือเป็นหุ้นที่เก็บเข้าพอร์ตในช่วงนี้ เพราะมีโอกาสรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากปี 66 ที่มีรายได้อยู่ที่ 921,187 ล้านบาท เนื่องจากภาคท่องเที่ยวไทยสดใส และโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่จะใช้ได้ใน Q4/67 ถึง Q2/68

กลยุทธ์