ดิจิทัลวอลเล็ตคืบหน้าตามคาด CPALL-CPAXT-BJC-CRC ได้ประโยชน์

#CPALL #ทันหุ้น - กระทรวงการคลังแถลงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยเฉพาะความชัดเจนเรื่องแหล่งเงินทุน ข้อกำหนด เงื่อนไข และกรอบเวลา

กระทรวงการคลังคาดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยกระตุ้น GDP ได้ 1.2-1.8% KR คาด upside 0.5% ซึ่งประกอบด้วย 0.2% ในปี 2567 และ 0.3% ในปี 2568

บล.กสิกรไทยเชื่อว่ากลุ่มค้าปลีกโดยเฉพาะ CPALL, CPAXT, BJC และ CRC น่าจะได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

Key Highlights

กระทรวงการคลังเปิดเผยรายละเอียดไทม์ไลน์โครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพิ่มเติม รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิชัย ชุณหวชิร พร้อมด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวรรธน์ และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล สรุปรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ดใน 4 ประเด็นคือ 1) ความเป็นมาของโครงการ, 2) แหล่งที่มาของเงินทุนทุน, 3) ข้อกำหนดและเงื่อนไข และ 4) กรอบเวลา โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าโครงการแจกเงินดิจิทัลจำนวน 10,000 บาท มีความจำเป็นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ตกต่ำมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีหนี้สินสูง

คาดว่าโครงการนี้จะใช้วงเงินราว 4.5แสนลบ. โดยสนับสนุนจากเงินงบประมาณปี FY2567จำนวน 1.65 แสนลบ. และงบประมาณปี FY2568จำนวน 2.85 แสนสนลบ.แม้ปัจจุบันหนี้สาธารณะอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 64% ของ GDP และโครงการนี้คาดว่าจะเพิ่มภาระหนี้สาธารณะอีก อย่างไรก็ดี คาดว่าจะยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ต้องไม่เกิน 70%ในกรอบกฎหมายวินัยการเงินและการคลัง

ข้อกำหนดและเงื่อนไขโดยรวมยังคงเหมือนกับที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ หลักๆคือผู้มีสิทธิ์ต้องเป็นคนไทยที่มีอายุมากกว่า 16 ปี และมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 840,000 บาท หรือมีเงินฝากไม่เกิน 500,000บาทในบัญชี

Negative List หรือสินค้าที่ไม่ให้เข้าร่วมในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ได้แก่ ลอตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม บัตรของขวัญ บัตรเงินสด ทองคำ เพชร อัญมณีเครื่องประดับ น้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซธรรมชาติ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์สื่อสาร

สำหรับไทม์ไลน์ของโครงการ จะมีการลงทะเบียนสองรอบ โดยเปิดให้ลงทะเบียนรอบแรกวันที่ 1ส.ค.-15 ก.ย. 2567สำหรับผู้ที่มีสมาร์ทโฟน และรอบที่ 2 คือ 16 ก.ย-15 ต.ค. 2567 สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ในขณะที่ร้านค้าต่าง ๆ จะอนุญาตให้ลงทะเบียนโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1ต.ค. 2567 โดยโครงการจะเริ่มในไตรมาส 4/2567และเงินดิจิทัลสามารถใช้ซื้อสินค้าได้ภายในอำเภอตามบัตรประชาชน

เงินดิจิทัลคาดว่าจะหมุนเวียนในระบบได้อย่างน้อย 4 รอบ ได้แก่ 1) การใช้จ่ายระหว่างผู้บริโภคกับร้านค้าขนาดเล็ก 2) การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าเล็กกับร้านค้าขนาดใหญ่ 3) การใช้จ่ายระหว่างร้านค้าขนาดใหญ่ และ 4) ตัวคูณเพิ่มจากการใช้จ่ายของประชาชนแต่ละคนต่อกิจกรรมการผลิตและระบบเศรษฐกิจโดยรวม

Implication and Recommendation

ความคืบหน้าล่าสุดของโดรงการดิจิทัลวอลเล็ตส่วนใหญ่เป็นไปตามคาด บล.กสิกรไทยมีมุมมองเป็นกลางต่อความคืบหน้าล่าสุดของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เนื่องจากข้อมูลส่วนใหญ่สอดคล้องกับความคิดเห็นของกระทรวงการคลังหรือตามข่าวที่มีการให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ความคืบหน้าที่สำคัญคือไทม์ไลน์ แหล่งที่มาของเงินทุน และ Negative List ที่มีความชัดเจนมากขึ้น

กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะช่วยเพิ่ม GDP ได้ราว 1.2-1.8%ในขณะที่ KR ประมาณการว่าจะสร้าง upside ได้เล็กน้อยที่ 0.5% ซึ่งแบ่งเป็นกระตุ้นได้ 0.2%ในปี 2567 และ 0.3%ในปี 2568 อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าภาคธุรกิจการค้าหรือกลุ่มค้าปลีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง CPALL, CPAXT, BJC และ CRC น่าจะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ด