> SET > CPALL

04 มิถุนายน 2024 เวลา 10:21 น.

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนวัฏจักรการเงิน บล.กสิกรฯแนะ 5 หุ้นเด่น มิ.ย.

#CPALL #ทันหุ้น – บล.กสิกรไทยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในเดือนมิ.ย. ระบุว่าในบทวิเคราะห์ว่า SET Index ปรับตัวลงในเดือนพ.ค. และ underperform ตลาดโลก YTD จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังอ่อนแอและความไม่แน่นอนทางการเมือง

ปัจจัยหนุนเชิงบวกเดือนมิ.ย. คือการเริ่มทำ QT tapering, การฟื้นตัวของจีน, กำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัว ปัจจัยเสี่ยงคือประเด็นการเมืองและสถานการณ์ในตะวันออกกลาง

บล.กสิกรไทยคาดว่า SET Index จะฟื้นตัวในเดือนมิ.ย. โดยหุ้นเด่นประจำเดือนของเรา ประกอบด้วย CPALL, MTC, OSP, SCGP และ SPRC

 

ตลาดหุ้นไทยสวิงผันผวนในเดือนพ.ค.

แม้ว่าจะไม่มีการเทขายหนักในเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาแต่ SET Index ปรับตัวลง 1.6% จากการรายงาน GDP ที่อ่อนแอ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในปี 2567 ขณะที่ MSCI ACWI เพิ่มขึ้น 3.8% ในช่วงเดือนที่แล้วจากระดับความขัดแย้งระหว่างอิหร่าน และอิสราเอลที่ลดระดับลง โดย SET Index ยังคง underperform ตลาดโลก โดยปรับตัวลง 5.0% YTD เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 8.1% YTD สำหรับ MSCI ACWI


SET Index อาจฟื้นตัวได้ในเดือนมิ.ย. จากความเสี่ยงด้านล่างที่จำกัด

บล.กสกิกรไทยเชื่อว่า SET Index อาจจะฟื้นตัวในเดือนมิ.ย. หลังจากที่กำไรรวมของตลาดในไตรมาส 1/2567 ดีกว่าคาด 6% โดยเพิ่มขึ้นทั้ง Q0Q และ YOY เราเชื่อว่าช่วงซื้อขายเดือนมิ.ย. SET Index จะซื้อขายในกรอบที่ 1,330-1,390 จุด และคงเป้า SET Index ปี FY2567 ไว้ที่ 1,450 จุด สำหรับเป้าหมายสิ้นปี บนสมมติฐานประมาณการกำไร EPS ที่ 91, PER L-T เฉลี่ย 16 เท่า, L-T ส่วนต่างของ Bond yield 10 ปี ต่อ Earnings yield หรือ Earnings yield gap (EYG) ที่ 3.5% และ Bond yield ไทยอายุ 10 ปีที่ 2.8% วิธีการประเมินมูลค่าทั้ง PER และ EYGชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านล่างที่จำกัด


ปัจจัยหนุนเชิงบวก

ปัจจัยบวกที่สำคัญในเดือนมิ.ย.คือ 1) การเริ่มต้นทำ QT tapering ของ Fed โดยการลดขนาดงบดุล (Balance Sheet Run-off) ที่ทำในอัตราที่ชะลอลงจะช่วยลดแรงกดดันต่อ bond yield สหรัฐฯ และทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า ซึ่งเป็นบวกต่อราคาสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในตลาดเกิดใหม่, 2) การฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศของจีนก่อนความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งสหรัฐฯและ 3) นอกจากนี้กำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวจะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญสำหรับประเทศไทยในครึ่งหลังของปี 2567


ปัจจัยเสี่ยง

นักลงทุนควรติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศ เนื่องจากอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติและส่งผลให้เงินทุนไหลออก นอกจากนี้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังคงประเด็นที่ควรติดตาม เนื่องจากอาจผลักดันให้ราคาพลังงานสูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการฟื้นตัวของอัตราเงินเฟ้อและแวดล้อมของอัตราดอกเบี้ยที่จะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานานโดยเฉพาะในสหรัฐฯซึ่งจะบั่นทอนความน่าสนใจการลงทุนในตลาด EM รวมถึงไทยจากการอ่อนค่าของสกุลเงินเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ


Implication and Recommendation

ผสมผสานพอร์ตด้วยหุ้น Domestic Recovery และหุ้น Global Play

พอร์ตการลงทุนในเดือนมิ.ย. ของเราประกอบด้วยหุ้น 5 ตัว ได้แก่ CPALL, MTC, OSP, SCGP และ SPRC โดย CPALL และ MTC แนะนำเก็งกำไรจากประเด็นแนวโน้มกำลังซื้อผู้บริโภคที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะเกษตรกรในพื้นที่ชนบทสำหรับ MTC อีกทั้งหุ้นน่าจะหลุดจากแรงกดดันหลังจากการขายปรับ Rebalancing ของ MSCI ขณะที่ด้าน OSP คาดยอดขายแข็งแกร่งและกำไรที่เติบโตแรงในไตรมาส 2/2567 สำหรับ SCGP เล่นตามกระแส China Play ท่ามกลางการฟื้นตัวของการค้าระหว่างประเทศก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ และ SPRC ที่เชื่อว่าได้รับแรงหนุนจาก GRM ที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X