#SFT #ทันหุ้น – SFT ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 โตไม่น้อยกว่า 10% ชนพันล้านบาท จับตาอัตราการทำกำไร หลังต้นทุนทรงตัว รับทรัพย์โรงงาน เครื่องใหม่ แย้มใช้กำลังผลิต 70% ชี้มีช่องผลิตสินค้าโตต่อ วางหมาก Flexible Packaging ส่งสินค้าเจาะกลุ่ม Personal Care-อาหารพร้อมทาน

นายซุง ชง ทอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชริ้งเฟล็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SFT เปิดเผยว่า 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทลงทุนเรื่องอาคาร เพิ่มเครื่องจักร เพื่อให้มีกำลังผลิตตามที่บริษัทวางแผนไว้ โดยในปี 2567 บริษัทจะผลักดัน Utilization ให้สูงที่สุด โดยบริษัทมีความพร้อมจะเดินหน้าเครื่องจักรใหม่ และคาดว่าในปี 2567 จะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนมากขึ้นหลังจากบริษัทลงทุนขยายกำลังผลิต

** เดินหน้าธุรกิจ

โดยในปี 2567 บริษัทจะเดินหน้าสินค้า บรรจุภัณฑ์อ่อน (Flexible Packaging) ซึ่งบริษัทเริ่มผลิต และรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 ส่วนในปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นการทดลองและขยายตลาด คาดปี 2567 จะรัยบรู้รายได้จากการขยายธุรกิจในกลุ่ม Flexible Packaging เข้ามา ทั้งนี้สินค้าในกลุ่ม Flexible Packaging จัดอยู่ในทุกเซ็กเมนต์ โดยหลักๆบริษัทจะเน้นการขายสินค้าในกลุ่ม Personal Care และ กลุ่มอาหาร อย่าง Ready to Eat

“สินค้า Flexible Packaging จริงๆ เรารับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ไตรมาส 2/2565 และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นในทุกๆไตรมาส ส่วนปี 2566 เราเริ่มขยายตบาดมากขึ้น และคาดว่าปี 2567 จะเห็นตัวเลขจากการขยายตลาดเข้ามา” นายซุง ชง ทอย กล่าว

ปัจจุบันบริษัทใช้กำลังผลิตอยู่ประมาณ 70% และมองว่ายังมีช่องว่างสำหรับการเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 15% เพราะการผลิตสินค้าบางอย่างเป็นไฮซีซัน และบางเครื่องจักรยังสามารถรองรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ได้เพิ่มขึ้น

สำหรับปี 2567 คาดรายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่า 10% หรือมีรายได้อยู่ที่ 1 พันล้านบาท ส่วนแนวโน้มอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) คาดดีขึ้นกว่าปี เพราะ 2 ปีที่ผ่านมาในประเทศเจอสถานการร์โควิด เศรษฐกิจทั่วโลไม่ดี ส่วนต้นทุนในปี 2567 คาดจะยังทรงตัว และบริษัทลงทุนไปแล้วในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นในปี 2567 จะไม่มีค่าใช้จ่าย ค่าเสื่อมอาคาร บริษัทจึงมองต้นทุนปี 2567 จะเป็นเชิงบวกต่อธุรกิจของ SFT และคาดแนวโน้มมาร์จิ้นจะขยับตัวดีขึ้น

** รักษ์สิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดฉลากฟิล์มหดรัดรูป ซึ่งจะเน้นทำเป้ายอดขายกับบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่จะช่วยดึงดูดลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ สำหรับในอนาคตเทรนด์รักษ์โลกจะเป็นกระแส โดยในปี 2573 กลุ่มสหภาพยุโรป (EU) จะออกกฎให้พลาสติกและบรรจุภัณฑ์ต่างๆ สามารถรีไซเคิลได้ 100% บริษัทพร้อมจะเป็นผู้นำด้านกรีนแพ็กเกจจิ้ง ซึ่งหลายบริษัทไม่สามารถทำได้ เพราะต้องอาศัยประสบการณ์ และบริษัทพร้อม และมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิต สำหรับ 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทมีรายได้ 703.48 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 24.46 ล้านบาท

อนึ่ง SFT ประกอบธุรกิจของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้ 1.ผลิตภัณฑ์ฉลากฟิล์มหดรัดรูป สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทตามระบบการพิมพ์ได้แก่ ระบบการพิมพ์กราเวียร์ และระบบการพิมพ์ดิจิทัล 2. บรรจุภัณฑ์อ่อน (Flexible Packaging) 3.ผลิตภัณฑ์อื่น ได้แก่ แม่พิมพ์ (Printing Cylinder) และฟิล์มยืด (Stretch Film)

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=