#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL รายงานกำไรไตรมาส 2/2568 ที่ 1.18 หมื่นลบ. ลดลง 6% QoQ แต่ทรงตัว YoY กำไรสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ 9% และต่ำกว่าของตลาด 7% สาเหตุหลักมาจากกำไรจากการลงทุนจำนวน 3.3 พันลบ. ในไตรมาส 2/2568 ที่สูงกว่าคาด ขณะที่กำไรที่ลดลงเชิง QoQ สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่สูงขึ้น 24bps จากอัตราส่วนหนี้เสีย (NPL ratio) ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรในครึ่งแรกของปี 2568 คิดเป็น 60% ของประมาณการทั้งปีของเรา
PPOP ไตรมาส 2/2568 ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม BBL รายงานกำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง (PPOP) ไตรมาส 2/2568 อยู่ที่ 2.08 หมื่นลบ. ลดลง 4% QoQ และ 13% YoY ซึ่งต่ำกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัย 5% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่อ่อนแอ ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ไตรมาส 2/2568 ลดลง 1% QoQ และ 4% YoY เนื่องจากอัตราส่วนต่างดอกเบี้ย (NIM) ที่ปรับตัวลง 4bps QoQ และ 20bps YoY หลังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รายได้ดอกเบี้ยที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) หดตัวลง 9% YoY ตามค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินเชื่อที่ลดลง
NPL สูงกว่าคาด NPL ratio ไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้น 30bps QoQ เป็น 3.9% สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ 20bps ขณะที่ credit cost ไตรมาส 2/2568 เพิ่มขึ้นเป็น 158bps จาก 134bps ในไตรมาส 1/2568 BBL ยังได้ตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ คงคำแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมายที่ 139 บาท ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า BBL มีงบดุลและคุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง แต่อัตราตอบแทนเงินปันผลที่คาดการณ์ไว้ยังคงดูไม่น่าสนใจนัก โดยอยู่ที่ 5% ในปี 2568 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของคู่แข่งในกลุ่มธนาคารอื่นๆ ที่ 6-8%
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม