> Trendtalk > SAWAD

17 กรกฎาคม 2025 เวลา 06:30 น.

เจาะ SAWAD

#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่แนวต้าน 1,160 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านที่ 1,144 ขึ้นไป แต่แนวโน้มในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,144 ถ้าย้อนกลับลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,130


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ SAWAD หรือ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ "ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ" ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1. สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน 2. สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ 3. บริหารสินทรัพย์ 4. รับจ้างติดตามหนี้ 5. บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ


SAWAD รายงานผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/68 บริษัท มีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือที่ 1,100.07 ล้านบาท ลดลง 161 ล้านบาท หรือ 12.76% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ระดับ 1,261.10 ล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/68 เศรษฐกิจไทยชะลอตัวต่อเนื่อง ภาคส่งออกได้รับผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐ


โดยรายได้ดอกเบี้ย สําหรับไตรมาสที่ 1/68 บริษัทเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ปรับลดยอดจัดสินเชื่อ (Loan to Value) ต่อหลักประกันและต่อราย และคงนโยบายเพิ่มเงินดาวน์สําหรับลูกค้าของบริษัทย่อย บริษัทมี รายได้ดอกเบี้ยจํานวน 4,054 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนจํานวน 4,595 ล้านบาท ลดลงจํานวน 541 ล้านบาท หรือ 11.77%


ทั้งนี้ในไตรมาส 1/68 บริษัทมีลูกหนี้ NPL จํานวน 3,404 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67 ล้านบาท หรือ 2% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 67 แต่อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของลูกหนี้ NPL เป็นการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ลดลง จากการที่บริษัทยังคงดําเนินนโยบาย เพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ปรับลดยอดจัดสินเชื่อ (Loan to Value) ต่อหลักประกันและต่อราย รวมถึงนโยบาย การเพิ่มเงินดาวน์รถมอเตอร์ไซค์ใหม่ ซึ่งส่งผลให้ลูกหนี้คงเหลือลดลง


อย่างไรก็ตามผลลัพธ์จากมาตรการดังกล่าวได้ช่วย ส่งเสริมให้อัตรากําไรมีแนวโน้มที่สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายการตั้งค่าเพื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น และผลขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอการขายที่ลดลง


นอกจากนี้บริษัทมีโครงการพิเศษลดดอกเบี้ยช่วงระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุดมี.ค. 68 เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมตั้งแต่ไตรมาส 4/67 จํานวน 40 ล้านบาท ส่วนรายได้อื่น ในไตรมาส 1/68 รายได้จากค่านายหน้าประกันภัยจํานวน 310 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากจํานวน 295 ล้านบาทในไตรมาสเดียวกันของปี 67 หรือเพิ่มขึ้น 5.1% โดยมีการเพิ่มพันธมิตรบริษัทประกันภัยให้ ครอบคลุม และเพิ่มช่องทางการขาย


นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า จากการที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และ การอนุมัติสินเชื่อที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลให้บริษัทปรับลดเป้าหมายสินเชื่อปี 68 ลงจาก 10-15% มาที่ 5-10% โดยจะเน้นเติบโตสินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นหลัก ซึ่งยังมีความต้องการใช้สินเชื่ออย่างต่อเนื่อง


ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์พยายามประคองตัวไม่ให้ต่ำลงจากไตรมาส 1/68 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 และ 3 ปี 68 จะดีกว่า เมื่อเทียบจากไตรมาส 1/68 โดยมาจากการปรับคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ และ การบริหารคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ


ทางด้านอัตราส่วนหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญหรือผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อลูกหนี้รวม( Credit cost) คงเป้าหมายเดิมที่ 1.8-2% ในปี 68 จากไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 1.8% ในขณะที่หนี้ที่มิก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คงเป้าหมายเดิมที่ 3-4% ในปี 2568 จากไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 3.76%


NPL ที่สูงขึ้นมาจากเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ และ สินเชื่อส่วนบุคคลไม่มีหลักประกัน แต่เราก็ได้นำนโยบายการตัดหนี้สูญ NPL มาใช้เพื่อจัดการคุณภาพสินทรัพย์ และ เชื่อว่าสิ้นปีนี้จะคุมให้อยู่ในกรอบที่เราวางไว้ได้


อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันฐานะทางการเงินของบริษัทมีความแข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสด และ วงเงินพร้อมใช้จากสถาบันการเงินทั้งในไทย และ ต่างประเทศรวม 6,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการขยายสินเชื่อ และ ชำระคือสถาบันการเงิน และ ผู้ถือหุ้นกู้ นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนก.ค. หรือ ต้นเดือนส.ค. นี้ บริษัทมีแผนออกหุ้นกู้ชุดใหม่ แต่ขอประเมินสถานการณ์ตลาดในขณะนั้นอีกครั้ง


นอกจากนี้ บริษัทมีปรับแผนการบริหารเงินทุน โดยในปี 68 จะปรับเพิ่มอัตราการจ่ายเงินปันผล (Payout ratio) เป็น 30-50%  และ จ่ายปันผลเป็นเงินสด จากเดิมมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาบริษัทจ่ายหุ้นปันผลเป็นหลัก

ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคหลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงระยะยาวที่ 16.00 ถ้าทะลุผ่านแนวต้านที่ 20.00 ขึ้นไป ราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 24.00 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 16.00 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X