#sawad #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.กสิกรไทย
.
SAWAD ถึงเวลาที่จะทบทวนอีกครั้ง
SAWAD ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อที่ 5–10% ในปี 2568หนุนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่มีกำไรสูง พร้อมลดการพึ่งพาสินเชื่อเช่าซื้อ
การปรับพอร์ตเช่าซื้อคาดว่าจะผ่อนคลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งจะช่วยลดการขาดทุนที่เกี่ยวข้อง สภาพคล่องดีขึ้นจากการออกหุ้นกู้มูลค่า 5 พันลบ. และวงเงินสินเชื่อจากธนาคารที่เพิ่มขึ้น
บล.กสิกรไทยคงประมาณการกำไรไว้ที่ 4.4 พันลบ. และปรับคำแนะนำเป็น "ซื้อ" เนื่องจากมูลค่าหุ้นดูน่าสนใจ โดยมี PER อยู่ที่ 6 เท่า และอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 6.9%
.
บล.กสิกรไทยได้จัดงาน KS C Series เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. โดยมีคุณธิดา แก้วบุดดา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กรของ SAWAD เข้าร่วมพูดคุยแนวโน้มปี 2568กับผู้จัดการกองทุนมากกว่า 40 ราย บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อยจากประเด็นสำคัญที่ได้จากการประชุม ซึ่งสรุปได้ดังนี้
.
การเติบโตของสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้นตามลำดับ ผู้บริหารยังคงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปี 2568 ที่ 5–10%หนุนจากการเติบโตของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเป็นหลัก ขณะเดียวกันมีแผนจะลดสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อลงเหลือ 25%ของพอร์ตสินเชื่อรวม จาก 29% ในไตรมาส 1/2568
ผู้บริหารมองว่าผลตอบแทนจากสินเชื่อจำนำทะเบียนรถดีกว่าสินเชื่อเช่าซื้ออย่างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญ
ในเชิง YTD ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่เริ่มปรับตัวดีขึ้นที่ 10% YoY และคาดว่าสินเชื่อจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยตั้งแต่ไตรมาส 2/2568 เป็นต้นไป โดยจะหนุนให้อัตราผลตอบแทนจากสินเชื่อเริ่มปรับตัวดีขึ้นเช่นกันในไตรมาส 2/2568 จากปัจจัยทางฤดูกาล
.
อยู่ระหว่างการปรับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้ออีก 1–2 ไตรมาส ประเด็นที่นักลงทุนในงานให้ความสนใจคือการขาดทุนจากพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ
ผู้บริหารกล่าวว่า ระหว่างกระบวนการปรับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ การขาดทุนจากการขายรถยึดคืนจะกลับเข้าสู่ระดับปกติที่ประมาณ 200–250 ลบ. ต่อไตรมาสในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 เทียบกับ 292 ลบ. ในไตรมาส 1/2568 และ 361ลบ. ในไตรมาส 4/2567
SAWAD ได้ลดสัดส่วนสินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) และค่าคอมมิชชันให้กับดีลเลอร์ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในธุรกิจนี้
.
สถานะสภาพคล่องดีขึ้น SAWAD มองเห็นความต้องการที่ดีขึ้นต่อหุ้นกู้ที่จะออกในช่วงปลายเดือน ก.ค. มูลค่า 5.0 พันลบ. หลังได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือ
ธนาคารพาณิชย์ยังได้เพิ่มวงเงินสินเชื่อให้กับ SAWAD ด้วย ส่งผลให้ผู้บริหารมีความมั่นใจมากขึ้นในการบริหารสภาพคล่องในปี 2568โดยความต้องการเงินทุนลดลงบ้างจากการเติบโตของสินเชื่อที่อ่อนแอ
.
กำไรในครึ่งหลังของปี 2568 มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย
บล.กสิกรไทยยังคงประมาณการกำไรปี 2568 ที่ 4.4 พันลบ. ลดลง 12.7% YoY บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรไตรมาส 2/2568 อาจอ่อนตัว QoQ จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) และรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ที่อ่อนแอ
ขณะที่บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรครึ่งหลังของปี 2568 จะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย HoH จากการเติบโตของสินเชื่อที่ดีขึ้น และการขาดทุนจากการขายรถยึดคืนที่ลดลงเป็นหลักจากการทยอยจบกระบวนการปรับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ
.
บล.กสิกรไทยปรับคำแนะนำสำหรับ SAWAD เป็น "ซื้อ" ด้วยราคาเป้าหมายที่ 21 บาท ราคาหุ้น SAWAD ปรับตัวลดลงแล้ว 58% YTD จากแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอและความกังวลหลายประเด็นเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านกฎเกณฑ์และสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตาม บล.กสิกรไทยเชื่อว่าระดับมูลค่าหุ้นในปัจจุบันสะท้อน downside risk ค่อนข้างจำกัด ด้วย PER ปี 2568 ที่ 6 เท่า และคาดว่าอัตราตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 6.9% จากสมมติฐานอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 40%
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม