ดำเนินธุรกิจก่อสร้างและบริหารทางพิเศษและบริหารจัดการโครงการระบบขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้า รวมถึงธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง
BEM รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68 มีกำไรสุทธิ 871.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.81% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 847.16 ล้านบาท โดยรายได้ค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปริมาณผู้โดยสารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราค่าโดยสารตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานเมื่อเดือน ก.ค. ปีก่อน
ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจระบบรางอยู่ที่ 1,749 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4% โดยรายได้ค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้น 106 ล้านบาท จากปริมาณผู้โดยสารที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจพัฒนาเชิงพาณิชย์ มีรายได้ 265 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากรายได้จากการให้เช่าพื้นที่สื่อโฆษณาและให้เช่าพื้นที่ร้านค้าปลีกใน Metro Mall เป็นต้น
สำหรับรายได้ค่าผ่านทางลดลง โดยมีสาเหตุหลักจากจำนวนวันที่มีรายได้ในไตรมาสนี้น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 1 วัน ประกอบกับปริมาณรถที่ใช้ทางพิเศษลดลงจากการเลี่ยงเส้นทางของผู้ใช้ทางจากงานก่อสร้างบริเวณใกล้เคียงทางขึ้นลงทางพิเศษและการปิดเส้นทางจราจรหน้าด่านดาวคะนองจากอุบัติเหตุงานก่อสร้างคานสะพานยกระดับโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง ทรุดตัวในช่วงเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาพรวมของรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
นายธนาวัฒน์ วรรณดิษฐ์ ผู้จัดการส่วน ส่วนนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยในงาน "Opportunity Day" ว่าสำหรับแนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 2/68 บริษัทคาดว่าจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าและผู้ใช้ทางด่วนพิเศษที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้ช่วงนี้อาจยังเห็นตัวเลขที่ไม่ได้ชัดเจน แต่นับตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ค.ซึ่งมีการเปิดเทอมของโรงเรียนต่างๆแล้วไปจนถึงช่วงเดือน มิ.ย.68 ที่มีวันหยุดจะน้อยลง คาดจะเห็นตัวเลขผู้ใช้ที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น รวมถึงช่วงไตรมาส 3-4ของปีนี้ที่จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องไปอีก
ทั้งนี้ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ใช้ทางด่วนยังมียอดติดลบอยู่เล็กน้อย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น โดยภาพรวมปีนี้คาดว่าธุรกิจทางด่วนจะเติบโตราว 1% ส่วนด้านธุรกิจรถไฟฟ้าในช่วง 4 เดือนยังเป็นบวกที่ระดับ 3% และคาดว่าภาพรวมทั้งปีนี้จะโต 4-5%รวมถึงน่าจะเห็นแนวโน้มปริมาณผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะเมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ฝั่งตะวันออก) เปิดให้บริการช่วงปลายปี 70 หรือต้นปี 71
ขณะที่บริษัทยังคงเป้ารายได้รวมปีนี้เติบโต 4-5% จากปีก่อน เนื่องจากยังต้องรอดูผลงานในช่วงครึ่งปีแรกก่อน โดยผลการดำเนินงานก็ยังขยายตัวไปตามปกติ หลังจากในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีการเติบโตที่ระดับ 2%ส่วนไตรมาส 2/68 ยังต้องรอดูอีกที อย่างไรก็ตามภาพรวมเชื่อว่าคงไม่ได้แย่กว่าปีก่อนและทั้งปีก็น่าจะมีการเติบโตของทั้ง 3 ธุรกิจหลัก
ส่วนการลงทุนหลักๆในปีนี้คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งปัจจุบันดำเนินการไปแล้วประมาณ 3-4%แล้ว ส่วนโครงการอื่นๆ ยังไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่
นอกจากนี้บริษัทจะยังไม่มีการปรับขึ้นค่าทางด่วนหรือค่าโดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในปีนี้ โดยในส่วนของรถไฟฟ้าเพิ่งมีการปรับไปเมื่อเดือน ก.ค.67 โดยปกติมักจะมีการปรับการคิดอัตราค่าโดยสารทุกๆ 2 ปี ซึ่งรอบการปรับอีกครั้งจะอยู่ที่ช่วงเดือน ก.ค.69 ส่วนค่าทางด่วน (ขั้นที่ 1) ทางบริษัทยังไม่ได้ทำสัญญาจึงยังไม่มีการปรับค่าบริการ โดยคาดว่าจะมีการปรับอีกครั้งในปี 71 และทางด่วนเส้นบางซื่อ – ตลิ่งชัน คาดว่าจะปรับอีกครั้งในช่วงเดือน ธ.ค.69
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 4.70-4.80 ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 5.20 และ 5.50 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 4.70 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
FACEBOOK :
ท้นหุ้น คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
ทันหุ้นออนไลน์ คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
YOUTUBE : Thunhoon คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok : Thunhoon คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม