#COM7 #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1,120 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่แนวรับสำคัญ 1,050-1,060 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,150 และ 1,200 เป็นเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่มีแนวรับสำคัญที่ 1,100
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ COM7 หรือ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจหลักในการค้าปลีกสินค้าไอที ประเภทคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะคอมพิวเตอร์แบบพกพา สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเป็นผู้ให้บริการศูนย์ซ่อมแซมสินค้าแอปเปิ้ล (iCare)
COM7 สรุปผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1 ปี 68 มีกำไรสุทธิ 980.65 ล้านบาท เทียบงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 830.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18%
บริษัทชี้แจงว่า กำไรส่วนของบริษัทใหญ่เท่ากับ 980.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 149.8 ล้านบาท (+18%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการขายและการให้บริการ เท่ากับ 20,895.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,666.6 ล้านบาท (+8.7%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
สาเหตุหลักมาจากความสามารถในการรักษาการเติบโตของยอดขายผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าเทคโนโลยีที่ยังคงมีความต้องการสูงในตลาด ซึ่งสะท้อนผ่านอัตราการเติบโตของยอดขายร้านค้าเดิม (SSSG%) ที่ยังคงเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้บริษัทสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง โดยมีการจัดหาสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งในแง่ของราคา คุณภาพ และช่องทางการเข้าถึง นอกจากนี้ ผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมยังมีส่วน สำคัญในการผลักดันรายได้ภาพรวมของกลุ่มบริษัทให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ Chief Business Officer บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่าในช่วงไตรมาส 2/68 ทิศทางรายได้ยังมีแนวโน้มเติบโตเท่าตัวจากไตรมาส 1/68 จากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth : SSSG) อยู่ในระดับตัวเลข สองหลัก (Double Digit)
Q2/68 ถือว่าผลงานทิศทางดี เซอร์ไพร์ส เพราะมันดีมาก ซึ่งจะเห็นแล้วว่าช่วง Q1/68 รายได้เราโต 9% แต่ช่วง Q2/68 เราถือเป็นเท่าแล้วจาก Q1/68 โดย SSSG โต Double Digit ซึ่งอันนี้คือผลงานแค่ 45 วัน ดังนั้นอีก 45 วันที่เหลือหากไม่มีอะไรพลิก ผลงานใน Q2/68 น่าจะดีกว่า Q1/68 อย่างแน่นอน
สำหรับธุรกิจการจำหน่ายรถไฟฟ้า AION ยังมียอดซื้อที่ดีต่อเนื่อง สะท้อนจากช่วงงานมอเตอร์โชว์ปี 68 ที่ผ่านมามียอดจองรถ GAC AION ทั้งสิ้น 7,018 คัน สูงสุดเป็นอันดับ 3 ของงาน โดยปีนี้บริษัทฯ เตรียมเปิดโชว์รูมรวมอีก 5 แห่ง ซึ่งนอกจากการขายปลีก การขายส่งให้กลุ่มคู่ค้าต่างๆ บริษัทยังคงรุกตลาดต่อเนื่อง และโครงการ EV Taxi ปัจจุบันมีผู้สมัครใช้บริการแล้ว 300 คัน ส่งมอบแล้ว 200 คัน
ด้านธุรกิจโซลาร์เซลล์ ซึ่งบริษัท มีเอาต์เล็ตในแบรนด์ BaNANAN IT เพิ่มขึ้นเป็น 100 สาขาในปีนี้ จากปีก่อนที่ 40 สาขา เพื่อขายผลิตภัณฑ์โซลาร์ และแบรนด์ BaNANAN Solar จากปีก่อนเปิดไปแล้ว 2 แห่ง โดยปีนี้เปิดเพิ่มอีก 3 แห่งรวมทั้งปีเป็น 5 แห่ง ส่วนโครงการ UFund เพื่อนักเรียน นักศึกษา สามารถผ่อนสินค้ากลุ่ม IOS ได้ บริษัทได้ขยายฐานกลุ่มลูกค้าทั่วไปและกลุ่มสินค้า Andriod ส่วนธุรกิจ iCare INSURANCE ยังมีทิศทางการเติบโตในแง่ของยอดขายและกำไรต่อเนื่อง
ด้านประเด็นสงครามการค้ามองว่าในปัจจุบันยังไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัท เนื่องจากบริษัททำธุรกิจปลายน้ำ ซึ่งกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบก่อนคือธุรกิจต้นน้ำอย่างการผลิตไมโครชิป แผงอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และโดยปกติการวางแผนด้านการจัดหา (Supply) มือถือ 1 รุ่น จะใช้เวลาประมาณกว่า 1 ปี โดยบริษัทหวังว่าธุรกิจต้นน้ำจะสามารถคลี่คลายผลกระทบได้ในช่วง 1 ปีหลังจากนี้
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่แนวรับ 16.40-17.00 ก่อนที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 21.50 และมีแนวต้านสำคัญที่ 22.50 แต่ควรใช้เป็นจังหวะขายทำกำไรในระยะสั้น
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม