#หุ้นรับเหมา #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง โดย บล.กสิกรไทย
.
มีความเสี่ยงงบประมาณล่าช้าจากการเมือง
MOT ระบุว่า การที่นายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจะไม่ทำให้การเบิกจ่ายล่าช้า เนื่องจากนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยังคงมีอำนาจเต็มในการดำเนินงาน การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐอยู่ที่ 31% ในเดือน ต.ค. 67 - เม.ย. 68 (เทียบกับเป้าทั้งปี FY2568 ที่ 65%) คาดว่าโครงการที่อยู่ในแผนจะได้รับการอนุมัติในไตรมาส 3
บล.กสิกรไทยยังคงมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจจากแนวโน้มการเติบโตของกำไร อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงทางการเมืองอาจกดดันต่อการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในระยะสั้น
.
สำนักข่าวผู้จัดการรายงานว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม (MOT) ระบุว่า การที่นายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจะไม่ทำให้การอนุมัติโครงการภายใต้งบประมาณปี FY2568 ล่าช้า เนื่องจากเขามีอำนาจเต็มในการอนุมัติโครงการที่อยู่ในแผนงาน
อ้างอิงจากสำนักข่าวผู้จัดการ เลขาธิการ กพอ. คาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการอีอีซอนุมัติโครงการสนามบินอู่ตะเภาในวันที่ 15 ก.ค. โดยมีเงื่อนไขไม่รวมโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เพื่อแลกกับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมและลดความเสี่ยง
.
งบประมาณปี FY2568
ภายหลังการที่นายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ระบุว่าจะไม่ทำให้การอนุมัติโครงการภายใต้งบประมาณปี FY2568 ล่าช้า ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2567 ถึงเดือน เม.ย. 2568 (7 เดือนแรกของปี FY2568) รัฐบาลเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว 59% ของงบปี FY2568 (เทียบกับเป้าหมายของบล.กสิกรไทยที่ 94.3% และปี 2567 ที่ 94.2%) ขณะที่การเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐอยู่ที่ 31% (เทียบกับเป้าหมายปี FY2568 ที่ 65% และปี FY2567 ที่ 70%) ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย บล.กสิกรไทยคาดว่ารัฐบาลจะเดินหน้าอนุมัติโครงการที่เหลือในแผนงานในไตรมาส 3/2568
.
ไทม์ไลน์งบประมาณปี FY2569
ตามข้อมูลจากสำนักงบประมาณ ร่างแรกของงบประมาณปี FY2569 ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมื่อวันที่ 30 พ.ค. โดยงบประมาณรวมเพิ่มขึ้น 0.7% ขณะที่กระทรวงคมนาคมได้รับงบเพิ่มขึ้น 3.8% ขั้นตอนถัดไป ได้แก่:
การพิจารณาของรัฐสภา (วาระ 2 และ 3) ในวันที่ 13-15 ส.ค.
การเห็นชอบจากวุฒิสภาในวันที่ 25-26 ส.ค.
การประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาในวันที่ 8 ก.ย.
.
แนวโน้ม
ความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจเพิ่มความเสี่ยงในการล่าช้าของงบประมาณ และสร้างแรงกดดันเชิงลบต่อราคาหุ้นกลุ่มรับเหมา ในไตรมาส 3/2565 ตลาดได้เห็นสัญญาณความล่าช้างบประมาณ และราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาปรับตัวลดลงประมาณ 8%QoQ อย่างไรก็ตาม ในด้านแนวโน้มกำไร บล.กสิกรไทยเชื่อว่าความล่าช้าในการอนุมัติโครงการไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อประมาณการกำไรปี 2568-ครึ่งแรกของปี 2569 เนื่องจาก backlog ที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยสนับสนุน โดยสามารถครอบคลุมรายได้ได้ประมาณ 4 ปีสำหรับ CK และ STECON และจนถึงครึ่งแรกของปี 2569 สำหรับ PYLON และ SEAFCO
.
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น
บล.กสิกรไทยเชื่อว่าการปรับตัวลงของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนความเสี่ยงในการล่าช้างบประมาณไปบางส่วนแล้ว หากงบประมาณได้รับการอนุมัติโดยไม่มีความล่าช้า ข้อมูลในอดีต 5 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาโดยเฉลี่ยจะปรับตัวขึ้นก่อนการเห็นชอบจากวุฒิสภา โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2% จากช่วงก่อนการเห็นชอบจนถึงวันที่ได้รับการเห็นชอบ (แผนภาพ 5)
.
มุมมองเชิงบวก
บล.กสิกรไทยยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจก่อสร้าง โดยมี CK ("ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 21.5 บาท) และ SEAFCO ("ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.43 บาท) เป็นหุ้นเด่น บล.กสิกรไทยคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานของผู้รับเหมาจะยังคงเติบโตทั้ง YoY และ QoQ ในช่วงไตรมาสที่เหลือของปี หนุนจาก backlog ที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม หากเกิดความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณปี FY2569 อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถของ CK และ SEAFCO ในการจัดหา backlog ใหม่ เนื่องจาก backlog ปัจจุบันของทั้งสองบริษัทส่วนใหญ่มาจากโครงการภาครัฐ
.
ความเสี่ยงขาลง
ได้แก่ ความล่าช้าในการเปิดประมูลโครงการภาครัฐ การชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเร็วกว่าคาด และความไม่แน่นอนทางการเมือง
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม