เคาะ SYNEX

#SYNEX #ทันหุ้น - ในไตรมาส 1/2025 SYNEX มีรายได้รวม 11,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.2% จากปีก่อนหน้า จากกลยุทธ์ขยายพอร์ตสินค้าและช่องทางจัดจำหน่าย โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟนที่เติบโตถึง 83% จากฟีเจอร์ AI ใหม่ และกลุ่ม Apple ที่เติบโต 17% ตามกระแสสินค้าใหม่ ด้านกลุ่มคอมเมอร์เชียลและเอนเตอร์ไพรซ์ยังเติบโตดีจากความต้องการโซลูชันองค์กร แม้กลุ่มเกมมิ่งจะชะลอตัวบ้าง ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มเพียง 9% และสัดส่วนลดลงสะท้อนประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 188 ล้านบาท เติบโต 24% และอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 1.68%

กลยุทธ์ปี 2025 มุ่งเน้น 4 แกนหลัก ได้แก่ การเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงโดยเฉพาะกลุ่ม Commercial และ Enterprise พร้อมยกระดับบทบาทสู่การเป็น Full Service Distributor, การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานผ่านการใช้ AI ช่วยบริหารต้นทุนและกระบวนการภายใน, การจัดพอร์ตสินค้าให้สอดรับเทรนด์ใหม่ เช่น AI และ IT Replacement Cycle รวมถึงการเร่งขยายธุรกิจ Cloud และ AVS ผ่านความร่วมมือกับ AWS พร้อมสนับสนุนพาร์ตเนอร์ด้วย Credit Facility และการตลาดเชิงรุก โดยบริษัทเล็งเห็นโอกาสในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ได้รับการตอบรับดี อาทิ Huawei Watch Fit 4 Pro, Honor 400 Series, การเติบโตของตลาด AI Server และแรงหนุนจากการสิ้นสุดการสนับสนุน Windows 10 ที่จะเร่งการอัพเกรด PC กว่า 3 ล้านเครื่องในไทย รวมถึงกระแสตอบรับคาดว่าจะดีของ Nintendo Switch 2 ที่เพิ่งเปิดตัว โดยตั้งยอดยอดขายกว่า 1 แสนเครื่อง พร้อมเดินหน้าเปิดตัวสินค้า AI และอุปกรณ์ไอทีใหม่ต่อเนื่อง ผลักดันรายได้ปีนี้ โต 13% แตะ 4.7 หมื่นล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเต็มที่

ด้านแนวโน้ม 2Q/25Fคาดว่ายอดขายจะขยายตัวต่อเนื่องแม้จะเป็นช่วง Low Season แต่ได้อานิสงส์จากยอดขายของกลุ่ม Consumerตามความต้องการสินค้าที่เกี่ยงข้องกับ AI ส่วนกลุ่ม Smartphone คาดว่าจะยังคงโมเมนตัมบวกจากการขายโทรศัพท์มือถือในระดับกลาง-ล่างมากขึ้น นอกจากนี้แนวโน้ม GPM ดีขึ้นจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ขณะที่ในช่วงครึ่งหลังของปีจะเริ่มเข้าสู่ High Season ทั้งนี้ IAA Consensus ประเมินกำไรสุทธิเฉลี่ยปีนี้เท่ากับ 702.66 ล้านบาท +12%YoY โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยเท่ากับ 14.23 บาท ในเชิง Valuationราคาปัจจุบันซื้อขายบน P/E เพียง 13.5 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง -0.75 SD

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ราคาปรับตัวขึ้นแรง ทำรูปแบบ Triple Bottom พร้อมยืนเหนือ EMA 5 และ 10 วัน ที่ตัดขึ้นเป็น Golden Cross เกิด Buy Sig. สนับสนุนด้วยการเกิด Divergence ใน Slow Stoc. ระยะสั้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 12.50/13.00 เป็นกรอบพิจารณาเล่นรอบ แนวรับ 11.50/11.00 ไม่ควรต่ำกว่าลงมาเพื่อคงสัญญาณบวก

คำแนะนำของ ASL

กรณี “มีหุ้น” แนะนำถือหรือซื้อเพิ่ม ลุ้นทดสอบแนวต้าน 12.00-12.50/13.00

กรณี “ไม่มีหุ้น” แนะนำ ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 11.50 / 11.00ไม่ควรต่ำกว่าลงมา