TU หยวนต้าคาดกำไร Q2/68 ที่ 1,103 ลบ. แนะจับตาตความชัดเจนอัตราภาษีของสหรัฐ

#TU #ทันหุ้น-บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU คาดว่ากำไรปกติงวดไตรมาส 2/68 อยู่ที่ 1,103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.8% QoQ แต่ลดลง 27.6% YoY สาเหตุที่กำไรเพิ่มขึ้น จากปัจจัยฤดูกาล ส่วนกำไรที่ชะลอตัวลง QoQ มาจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายและอัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้น จากค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาการทำTransformation แต่เริ่มเห็นการปรับลดลง QoQ สะท้อนผลลัพท์จากโครงการดังกล่าวมากขึ้น นอกจากนี้ในไตรมาส 2/68 จะเป็นไตรมาสแรกที่บริษัทเริ่มรับรู้อัตราภาษีจ่ายที่สูงขึ้นจากกฎ Global Minimum Tax (GMT) อย่างไรก็ตาม บริษัทปรับลดคาดการณ์ภาษีจ่ายจาก GMT ลดลงเป็น 100-150 ล้านบาท จากเดิมคาดที่ 300 ล้านบาท

นอกจากนี้ทาง TU ให้ข้อมูลว่าไม่ได้เห็นสัญญาณการเร่งสต็อกคำสั่งซื้อของลูกค้าในช่วงที่ผ่านมาที่อัตราภาษียังไม่สูงประกอบกับเป็นช่วง High Season ของธุรกิจ ทำให้ปริมาณขายในครึ่งปีหลัง คาดจะยังเติบโตต่อ HoH และ YoY ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาจะทยอยลดลงหลังจากนี้หนุนอัตรากำไรสุทธิ ทำให้โดยรวมคาดผลประกอบการของ TU จะเติบโตได้ HoH และทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 4,455 ล้านบาท ลดลง 12.0% YoY

ขณะที่ปัจจัยหลักที่ต้องติดตามคือการเจรจาภาษีระหว่างรัฐบาลไทย และสหรัฐฯ หากออกมากรณีที่อัตราภาษี 10% ตลอดช่วงที่เหลือของปีจะอยู่ในกรอบประมาณการของฝ่ายวิจัย แต่หากอัตราภาษีอยู่ที่ 18% จะทำให้ประมาณการของฝ่ายวิจัยอาจมี Downside แต่ในเชิงการดำเนินงานบริษัทจะไม่ต้องแบกรับอัตราภาษีที่สูงขึ้น คาดจะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าส่งต่อไปที่ผู้บริโภคปลายทาง แต่ฝ่ายวิจัยประเมินอาจกระทบในด้านของกำลังซื้อและปริมาณขายแทน เป็นปัจจัยหลักที่ยังต้องติดตาม

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเก็งกำไรในหุ้น TU ให้ราคาเหมาะสมที่ 10.80 บาท โดยคาดว่าเงินปันผลในงวดครึ่งแรกปีนี้ ที่ 0.30 บาท คิดเป็น Div yield 3.0% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER ปี 68 ที่ 10.0 เท่าถือว่าไม่แพง แต่มองว่าตลาดยังรอติดตามการฟื้นตัวของประกอบการเทียบ YoY และความชัดเจนด้านอัตราภาษีของสหรัฐฯ โดยหากมีความชัดเจนหลังวันที่ 7 ก.ค. นี้อาจเห็นการฟื้นตัวของราคาหุ้นได้ในระยะสั้น

ราคาหุ้น TU ช่วงบ่ายเคลื่อนไหวอยู่ที่ 10.20 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.00% มีมูลค่าการซื้อขาย 50.71 ล้านบาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้