เคาะไปคุยไป : เคาะ CENTEL

#CENTEL #ทันหุ้น-ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ของ CENTEL เติบโตต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 6,752 ล้านบาท (+6% YoY), EBITDA 2,051 ล้านบาท (+7% YoY, EBITDA Margin 30%) และกำไรสุทธิ 740 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษ (ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายก่อนเปิดโรงแรมมัลดีฟส์) กำไรหลัก (Core Profit) อยู่ที่ 848 ล้านบาท เติบโต 13% YoY ธุรกิจโรงแรมมีรายได้ 3,559 ล้านบาท (+10% YoY) จากการเปิดดำเนินการโรงแรมหลักที่กลับมาเต็มรูปแบบ และ RevPAR โต 10% ในไทย และ 8% ในญี่ปุ่น แต่ลดลงในมัลดีฟส์และดูไบจากปัจจัยฤดูกาล ส่วนธุรกิจอาหารมีรายได้ 3,193 ล้านบาท (+2% YoY) โดย Same Store Sales โต 1% และสามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ทำให้กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 25% เหตุการณ์แผ่นดินไหวกระทบบางส่วน โดยมีการยกเลิกการจองในกรุงเทพฯ เป็นหลัก คิดเป็นผลกระทบราว 49 ล้านบาท แต่ไม่มีผลกระทบต่อทรัพย์สินหรือการปิดโรงแรม

แนวโน้มไตรมาส 2 แม้จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเดือนเมษายน โดยโรงแรมในกรุงเทพฯ รายได้รวมลดลง 22% YoY (ห้องพัก -11% ที่เหลือจากงานประชุม/สัมมนา) ขณะที่โรงแรมต่างจังหวัดยังเติบโต 16% ทำให้ภาพรวมโรงแรมในไทยยังโตได้ 2% ส่วนมัลดีฟส์ยังอ่อนตัว รายได้ลดลง 10% ขณะที่ดูไบฟื้นตัวดีขึ้นจาก Q1 หลังพ้นช่วงรอมฎอน รายได้โต 21% และญี่ปุ่นโต 12% จากแรงหนุน World Expo ดันค่าห้องพักเฉลี่ยโตถึง 31% ส่งผลให้รายได้รวมทั้งพอร์ต (ไทย, ญี่ปุ่น, มัลดีฟส์, ดูไบ) โตประมาณ 9% YoY สำหรับตลาดนักท่องเที่ยว มีการปรับแผนเน้นกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ ตะวันออกกลาง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ มาเลเซีย ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร เพื่อชดเชยนักท่องเที่ยวจีนที่หายไป

สำหรับ โรงแรมใน Portfolio เปิดดำเนินการ 51 โรงแรม (11,101 ห้อง) และอยู่ใน Pipeline 36 โรงแรม (8,319 ห้อง) ส่วนแผนเปิดโรงแรมปีนี้ ได้แก่ Centara Grand Lagoon Maldives (เปิด 1 เม.ย. 68, 142 ห้อง) และรับบริหาร 1,584 ห้อง (ส่วนใหญ่มาจากเวียดนาม, ไทย, เนปาล, ลาว) ส่วน Guidance ปีนี้ปรับรายได้ธุรกิจโรงแรมลงเหลือ 17-20%จากเดิมที่ 23% จากโรงแรม Centara Grand Lagoon Maldives เลื่อนเปิดจาก ก.พ. เป็น เม.ย. และปัจจัยอื่นๆ ที่กล่าวไป Occupancy Rate 69-73% (ใกล้เคียงปีก่อน 72%) และ RevPARที่ 4,300 - 4,600 บาท (ปีก่อน 4,100 บาท) แม้ธุรกิจโรงแรมจะสดใสน้อยลง แต่ต่างจังหวัดยังทำได้ดีมาก (สมุย, ภูเก็ต, กระบี่, หัวหิน, พัทยา) ส่วนธุรกิจอาหาร ปรับลด SSSG เป็น 1-3% ทั้งนี้บริษัทกำลังหาโอกาสลงทุนแบรนด์/JV ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มการเติบโตแบบ In-organic growth ทั้งนี้ Bloomberg consensus คาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้เท่ากับ 1.97 พันล้านบาท + 12.8%YoY และมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 36.36 บาท ส่วนในเชิง Valuation ซื้อขายบน EV/EBITDA ที่ 8.1 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยของกลุ่ม

อย่างไรก็ดีคาดว่ากลุ่มท่องเที่ยวจะขานรับ Sentiment บวกจาก ครม.ไฟเขียววงเงิน 4 หมื่นล้านบาทดันไทยเป็นเจ้าภาพจัด F1 5 ปี รวมถึงข้อมูลล่าสุดของตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในสัปดาห์ 9-15 มิ.ย. เริ่มฟื้นตัว

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ปิดกลับตัวขึ้นด้วยแท่งเทียนสีขาวยาวไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าแท่งเทียนสีดำยาวก่อนหน้า กรอบแนวต้านจิตวิทยาระหว่างวัน 22.90-23 ผ่านยืนมั่นคงสัญญาณซื้อ แนวต้านหลักจุดทดสอบTriple Top เดิม ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณชี้นำผ่านยืนเป็น Buy Sig