12 มิถุนายน 2025 เวลา 06:10 น.
#ทันหุ้น-เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากทุ่น SBM-2 ซึ่งอยู่บริเวณนอกชายฝั่งโรงกลั่นของ TOP โดยมีสาเหตุมาจากคลื่นลมกรรโชกแรง ส่งผลให้ระบบป้องกันความเสียหายของทุ่น SBM-2 ทำงาน ซึ่งในขั้นตอนการปิดวาล์วมีน้ำมันบางส่วนถูกปล่อยออกโดยอัตโนมัติ (ระบบนี้ออกแบบมาเพื่อป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้างทุ่น) จากข้อมูลที่บริษัทเปิดเผย เหตุการณ์ครั้งนี้มีความรุนแรงน้อยกว่าครั้งก่อนหน้าในเดือน ก.ย. 2566 อย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่
1.ปริมาณน้ำมันรั่วน้อยกว่า (8 พันลิตรเทียบกับ 6 หมื่นลิตร ในปี 2566)
2. ไม่มีอุปกรณ์เสียหาย (ขณะที่ครั้งก่อนมีความเสียหายต่ออุปกรณ์)
3.ระยะเวลาขจัดคราบน้ำมันสั้นกว่า (ประมาณ 1 วัน เทียบกับ 4 วันในปี 2566)
โดยสรุป เหตุการณ์นี้ไม่กระทบต่อการดำเนินงานของโรงกลั่น และ TOP มีประกันความเสียหาย ครอบคลุม ได้แก่
1.ประกันภัยทุกความเสี่ยง 1,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หักค่าเสียหายส่วนแรก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับความเสียหายทรัพย์สิน และ 60 วัน สำหรับการหยุดชะงักทางธุรกิจ
2.ความรับผิดต่อบุคคลที่ 3 (50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ /เหตุการณ์; หักค่าเสียหายส่วนแรก 0.2 ล้านดอลลาร์ สหรัฐ)
3.ความรับผิดทางกฎหมายจากมลภาวะ (25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ เหตุการณ์, หักค่าเสียหายส่วนแรก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
4.ประกันภัยการขนส่งทางเรือสำหรับน้ำมันดิบ (310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, หักค่าเสียหายส่วนแรก 0.5% ของมูลค่าสินค้า)
ทั้งนี้ทุ่น SBM-2 คาดว่าจะกลับมาใช้งานได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า (ขึ้นอยู่กับการอนุมัติจากหน่วยงานรัฐ ) ซึ่งสั้นกว่าการปิด 18 เดือนจากเหตุการณ์ในปี 2566 โดยในช่วงนี้ TOP จะใช้ทุ่น SBM-1 และวิธีถ่ายน้ำมันระหว่างเรือ (ship-to-ship) ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนราว 0.5 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หากทุ่น SBM-2 ต้องหยุดนานถึง 6 เดือน จะคิดเป็นดาวน์ไซด์ต่อประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ราว 4% แต่เรามองว่าทุ่นน่าจะกลับมาใช้งานได้เร็วกว่านั้น และผลกระทบทางการเงินจะมีน้อยมาก
“จากกรณี SBM-2 เมื่อเดือนก.ย. 2566 (ซึ่งรุนแรงกว่ารอบล่าสุด) ราคาหุ้น TOP ปรับตัวลดลง 5% และแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบประมาณ 2 เดือนก่อนจะฟื้นตัว ขณะที่เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 5% ซึ่งเรามองว่า สะท้อนเหตุการณ์รอบนี้ไปแล้ว และรอบนี้ก็เบากว่าชัดเจน เราจึงมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ก่อนการฟื้นตัวของกำไรหลัก QoQ ในไตรมาส 2/68 หนุนโดยค่าการกลั่นที่ปรับตัวดีขึ้น” (ที่มา : บทความเคราะห์ Thai Oil ฉบับ 9 มิ.ย. 68)
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม