#NEX #ทันหุ้น-NEX มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไร แม้ Q1/68 ขาดทุน 126 ล้านบาท จากลุยระบายสต๊อกรถอีวีเชิงพาณิชย์ 500 คัน หมดใน 2568 รับอานิสงส์ภาครัฐให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี-ราคาปรับตัวลงมาใกล้เคียงรถยนต์สันดาป-หลังปรับโครงสร้างทุนดันEA ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่ หนุนลูกค้าเชื่อมั่น พร้อม-เจรจาพันธมิตรทางธุรกิจอีก 2-3 รายในการเพิ่มโปรดักต์ ดันยอดขายปีนี้เกิน 500 คัน
ดร.เอกพล สกุลพลไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบัญชีและการเงิน บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานปีนี้จะพลิกกลับมามีกำไรได้ แม้ไตรมาส 1/2568 จะมีผลขาดทุน 126.58 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทสามารถระบายสต๊อกรถไฟฟ้า (รถอีวี)ที่มีประมาณ 500คันได้หมดภายในปีนี้ เพราะ ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าหลายราย และบริษัทยังได้รับประโยชน์จากนโยบายภาครัฐส่งเสริมการใช้รถอีวีเชิงพาณิชย์ ในการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและหากถ้าซื้อรถอีวีที่ผลิตในประเทศไทยก็จะได้ลดหย่อนภาษีสูงถึง 2 เท่า ซึ่งเป็นผลดีกับ NEXและราคารถอีวีเชิงพาณิชย์ก็ปรับตัวลงมาใกล้เคียงกับรถสันดาปแล้ว จากต้นทุนแบตเตอรีที่ลดลง
@ลูกค้าเชื่อมั่น
รวมถึงจากที่บริษัทมีการปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างการบริหาร จากการเพิ่มทุนเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัท มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ Preferential Public Offering : PPO)เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ และการเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO)เมื่อเดือนพฤษภาคม 2568 ทำให้บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)หรือ EA เข้ามาถือหุ้น NEX เพิ่มเป็น77.77%ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
ดังนั้นส่งผลให้ EA กลายมาเป็นบริษัทแม่ของ NEX ทำให้บริษัทสามารถนำเสนอโซลูชันโลจิสติกส์สีเขียว (Green Logistic Solution) ให้กับลูกค้าในรูปแบบแพ็กเกจได้ โซลูชันนี้ครอบคลุมตั้งแต่ ตัวยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เอง ,EAผลิตแบตเตอรีเอง ทำให้ NEX สามารถให้การรับประกันแบตเตอรีได้ และ EA ยังมีสถานีชาร์จแบบ Ultra Fast Charger ในการให้บริการ และยังสามารถให้บริการหลังการขายได้ด้วยจึงทำให้ได้เปรียบการแข่งขันและทำให้ผู้ซื้อมีความเชื่อมั่น
ดร.เอกพล กล่าวว่า จากที่บริษัทมีการเพิ่มทุนสำเร็จก็ทำให้สถานะการเงินแข็งแกร่งขึ้น ช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้นในการทำธุรกิจ NEX และเชื่อมั่นว่าบริษัทจะสามารถเติบโตและดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และยังทำให้สถาบันการเงินสนับสนุนสินเชื่อด้วยเช่นกัน นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจประมาณ 2-3 ราย เพื่อที่จะเข้ามาสนับสนุนทำให้บริษัทมีโปรดักต์ในการให้บริการมีความหลากหลายมากขึ้น คาดว่าจะสามารถสรุปได้เร็วๆ นี้ รวมถึงบริษัทก็จะมีการบริหารจัดการต้นทุนให้เหมาะกับกับราคาขายรถอีวี
@Q2 ขายรถเพิ่ม
สำหรับแนวโน้มยอดขายรถในไตรมาส 2/2568คาดว่าจะสูงกว่าไตรมาส 1/2568 เพราะจากที่บริษัทได้มีการปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างการบริหาร ทำให้ลูกค้าสนใจเข้ามาซื้อรถอีวีเชิงพาณิชย์กับบริษัทมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มรถแทร็กเตอร์ ราคาปรับตัวลงมาใกล้กับรถยนต์สันดาป แถมยังได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจึงทำให้ผู้ประกอบการขนส่งสนใจ ประกอบกับเทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ส่วนนโยบายการเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐนั้น บริษัทก็มีการติดตามใกล้ชิด แต่จากการประเมินผลกระทบนั้นพบว่าบริษัทได้รับผลกระทบน้อยมาก และฐานลูกค้าของบริษัทกระจายในหลายกลุ่มธุรกิจ ซึ่งถือว่าบริษัทมีการกระจายฐานลูกค้าได้ดีมาก
@คาด D/E ไม่เกิน 0.5 เท่า
อย่างไรก็ตามจากที่บริษัทมีการเพิ่มทุนสำเร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ได้เงินมาจำนวน 665 ล้านบาท จึงนำเงินไปชำระคืนหนี้ จึงทำให้อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ณ ไตรมาส 1/2568 ลดลงอยู่ที่ 3.56 เท่าจากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 5.96 เท่า และมีกระแสเงินสดอยู่ที่ 487 ล้านบาท และจากเดือนพฤษภาคมบริษัทได้เพิ่มทุนขาย ROทำให้ได้เงินเข้ามาอีก 3,327 ล้านบาท บริษัทได้นำเงินดังกล่าวไปชำระคืนหนี้ ทำให้คาดว่า D/E จะปรับตัวลงมาอยู่ที่ไม่เกิน 0.5 เท่า
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม