> Trendtalk > MINT

05 มิถุนายน 2025 เวลา 06:20 น.

เจาะ MINT

#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงต่อเนื่องหลุดแนวรับที่ 1,140 หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับที่ 1,160 ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,120-1,125 แต่ถ้าฟื้นตัวกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1,140 จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1,160


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ CPALL หรือ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ อาทิ ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ "แม็คโคร"


CPALL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/68 ที่ 7,585.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,265.84 ล้านบาท หรือ 20% เนื่องจากการดำเนินงานโดยรวมของทุกกลุ่มธุรกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven )


โดยในไตรมาส 1/68บริษัท มีรายได้รวม 252,881 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 4.8%โดยมีสาเหตุหลักมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายสินค้าของทุกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจร้าน สะดวกซื้อ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและศูนย์การค้า และกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ตามการบริโภคภายในประเทศที่ยังมีการขยายตัวจาก มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงต้นปี อาทิ มาตรการ Easy E-Receipt และมาตรการเงินโอนเฟส 2  รวมถึงการ ท่องเที่ยวในไตรมาสนี้ที่ยังคงดีต่อเนื่อง นอกจากนี้กลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยเสริมในการเติบโตของ รายได้อีกทางหนึ่งด้วย


ทั้งนี้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 113,970 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.7%จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 84,663 บาท และยอดขายเฉลี่ย ของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเท่ากับ 3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 88 บาท ในขณะที่ จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 963คน จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงต้นปี และจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน


ซึ่งธุรกิจร้านสะดวกซื้อยังคงใช้แผนกลยุทธ์ที่สอดรับกับสถานการณ์ ตลอดเวลา โดยคำนึงถึงการรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ ๆ โดยนำเสนอสินค้าใหม่ ๆ พร้อมกับ โปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าในแต่ละช่วงเวลา ประกอบกับความพยายามในการเพิ่มรายได้จากการขายสินค้า ผ่านกลยุทธ์ O2O อาทิ 7Delivery และ All Online ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภาวะปัจจุบันได้เป็นอย่างดี โดยมีสัดส่วน ประมาณ 11% ของรายได้จากการขายสินค้ารวม


นางสาวปัณฑารีย์ นันทนาคม ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป สำนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยในงาน Opportunity Day ว่า ในช่วงไตรมาส 2/68 ภาพรวมยอดขายสาขาเดิม (SSSG) อาจได้รับผลกระทบจากฤดูร้อน ซึ่งปีนี้ระยะสั้นกว่าปีก่อน อีกทั้งปริมาณฝนค่อนข้างมาก ส่งผลให้การเข้ามาใช้บริการของลูกค้าต่อวันน้อยลง หรือแม้แต่นักท่องเที่ยวโดยปกติจะเดินทางค่อนข้างมากในช่วงฤดูร้อนยอมรับว่าชะลอตัวลง


อย่างไรก็ตามบริษัท ยังมีบริการส่งถึงบ้าน (Delivery) เป็นปัจจัยสนับสนุน ซึ่งแม้ว่าอากาศร้อนหรือฝนตกยังสนับสนุนภาพรวมยอดขายให้คงที่ได้ ซึ่งเมื่อพิจารณาในมุมเงินบาทยังเห็นการเติบโตอยู่ ซึ่งบริการ Delivery เป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุน SSSG ในช่วงไตรมาส 2/68 ยังคงดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 1/68บริษัท มี SSSG อยู่ที่ระดับ 3%


โดยบริษัท มีมาร์จิ้นในส่วนของสินค้าพร้อมทาน (Ready to Move) ค่อนข้างเติบโตดีขึ้น ซึ่งบริษัท ตั้งเป้าขยายในกลุ่มสินค้าดังกล่าวเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งในแง่อาหารสุขภาพ อาหารตอบโจทย์วัยรุ่น เด็ก หรือแม้แต่กลุ่มขนมไทย และอาหารอิงตามกระแส เช่น ช็อกโกแล็ตดูไบที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยเสริมมาร์จิ้นในกลุ่มอาหาร ทั้งนี้ปัจจัยมีสัดส่วนรายได้ในกลุ่ม Ready to Move ประมาณ 29-30%


ด้านแผนงานในปี 68 บริษัทยังวางเป้าหมายเดินหน้าขยายสาขาในไทยประมาณ 700 สาขา โดยในช่วงไตรมาส 1/68 เปิดไปแล้ว 185 สาขา ด้านตลาดต่างประเทศเป้าหมายสำหรับกัมพูชาจะเปิดประมาณ 30 สาขา และสปป.ลาว ประมาณ 10 สาขา โดยบริษัทวางงบลงทุนในปีนี้ประมาณ 12,000 - 13,600 ล้านบาท ส่วนใหญ่ใช้เปิดสาขาใหม่-ปรับปรุง และการลงทุนภายใน ส่วน SSSG ปีนี้บริษัทวางเป้าหมายเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันหลายหน่วยงานคาดการณ์เศรษฐกิจไทยเติบโตอยู่ในช่วง 2-3%

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญของโครงสร้างระยะยาวที่ 47.00 ก่อนที่จะฟื้นตัวในระยะสั้น ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 50.00 และ 52.00 เป็นแนวต้านสำคัญ แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 46.00 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 43.00



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X