PTG มุมมองโบรกหลังพบนักวิเคราะห์

#ptg #ทันหุ้น #ทันหุ้นออนไลน์ #thunhoon

#ptg #ทันหุ้น - บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG จัดประชุมนักวิเคราะห์วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา โบรกเกอร์ยังคงมุมมองเป็นกลางและเชิงบวก ราคาหุ้น PTG วันที่ 27 พ.ค. เคลื่อนไหวในช่วง 6.30-6.45 บาท มูลค่าการซื้อขาย 6.44 ล้านบาท เมื่อเวลา 13.59 น.ราคาหุ้นอยู่ที่ 6.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน

บล.เคจีไอยังคงคำแนะนำ “ถือ” PTG และคงราคาเป้าหมายปี 2568F ไว้ที่ 8.10 บาท อิงจาก PE ที่ 11.5 เท่า บล.เคจีไอเชื่อว่าราคาหุ้นจะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่คาดว่าจะดีขึ้น QoQ ในไตรมาส 2/68 เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันคาดมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม บล.เคจีไอยังคงระมัดระวังกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง 2568 และความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นเพราะสหรัฐซึ่งอาจจะฉุดการบริโภคน้ำมันในประเทศ และ sentiment ของนักลงทุน

บล.กสิกรไทยระบุว่า ธุรกิจน้ำมันชะลอ แต่ธุรกิจ Non-oil โดดเด่น

โทนโดยรวมจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ PTG เป็นกลาง โดยผู้บริหารยังคงมุมมองระมัดระวังต่อธุรกิจน้ำมัน จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอ ซึ่งส่งผลลบต่อยอดขายน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจ Non-oil คาดว่าจะเติบโตได้แข็งแกร่ง หนุนจากกาแฟพันธุ์ไทย ซึ่งมีอัตรากำไรสูงราว 50% และการเติบโตของ SSSG ที่แข็งแกร่ง

บล.กสิกรไทยคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเหมาะสมที่ 8.10 บาท เนื่องจากหุ้นยังมี TSR ที่ 33% และแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/68 ที่แข็งแกร่งขึ้น พร้อมกับมี PEG ที่ 0.6 เท่า

บล.ดาโอคงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายที่ 8.50 บาท อิง PER 13 เท่า หรือเทียบเท่า -1SD ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ทั้งนี้บล.ดาโอมีมุมมองเป็นกลางจากงาน Analysts Meeting วานนี้ (26 พ.ค. 2568) หลังธุรกิจมีพัฒนาการตามแผน โดยสรุปประเด็นดังนี้

บริษัทยังคงเป้า Oil sales volume ปี 2568 เติบโตในกรอบ +5-10% (เทียบไตรมาส 1/68 = +3% YoY),

ประเมินค่าการตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้น จากสถานะกองทุนน้ำมันและทิศทางราคาน้ำมัน,

คงเป้าการขยายสาขาในปี 2568 ธุรกิจ Oil อยู่ที่ 2,279 สาขา จากไตรมาส 1/68 ที่ 2,237 (+42) และ Non-oil ที่ 2,978 สาขา จากไตรมาส 1/68 ที่ 2,425 (+553),

ATLAS (LPG) ยื่น filing แล้ว คาดว่า IPO ในช่วงครึ่งปีหลัง 2568

เบื้องต้นบล.ดาโอยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 1.2 พันล้านบาท (+19% YoY) จากสมมติฐาน Oil sales volume ปี 2568 เติบโต +5% (ปี 2567 = +13%) และค่าการตลาดเฉลี่ยที่ 1.65 บาท/ลิตร (ปี 2567 = 1.65 บาท/ลิตร) แนวโน้มช่วงที่เหลือของปีคาดผ่อนคลายขึ้นจากสถานะกองทุนน้ำมันที่ดีขึ้นและแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมัน

ราคาหุ้น underperform SET ราว -12% ในช่วง 3 เดือน จากความกังวลนโยบายแทรกแซงราคาพลังงานของภาครัฐ อย่างไรก็ตามบล.ดาโอประเมินว่าราคาหุ้น price in ไปมาก และปัจจุบันเทรดอยู่ที่ PER 11 เท่า และอยู่ใน PER band -1.5SD ต่ำสุดในช่วง 7 ปี ในขณะที่ค่าการตลาดมีแรงกดดันน้อยลงจากสถานะกองทุนน้ำมันที่ดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าจะเป็นปัจจัยให้หุ้นกลับมา outperform ตลาดได้

บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ “Buy” ต่อ PTG ที่ราคาเหมาะสม = 10.50 บาท (หุ้นค่าการตลาดฯ ฟื้นตัวได้แม้เจอราคาน้ำมันผันผวน และภาครัฐขึ้นภาษีฯ ได้ประโยชน์จากกองทุนน้ำมันที่ติดลบน้อยลง ส่งให้ปรับราคาได้ยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งบล.กรุงศรีมองแนวโน้มดังกล่าวจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 2568-69 ประกอบกับธุรกิจ Non-Oil ร้านกาแฟพันธุ์ไทยขยายสาขาได้ต่อเนื่อง (รายได้โตเร่งกว่าการขยายสาขา) หนุนรายได้โตเฉลี่ย 28% CAGR ในช่วง 2568-69 และกำไรปกติ +31% CAGR ในช่วงเดียวกัน เทียบกับ PER ราว 5-7 เท่า