> Trendtalk > BCP

26 พฤษภาคม 2025 เวลา 06:20 น.

TREND TALK : เจาะ BCP

#BCP #ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับที่ 1,175 หลังจากปรับตัวลดลงไปเคลื่อนไหวต่ำกว่า 1,200 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,160 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,200


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ BCP หรือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)


ดำเนินธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันและการค้าน้ำมัน และธุรกิจการตลาด รวมถึงลงทุนในธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่


BCP รายงานผลผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2568บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 134,647 ล้านบาท มี EBITDA 12,666 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และมีการรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 466 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 2,115 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.54 บาท


นางสาวภัทร์ภูรี  ชินกุลกิจนิวัฒน์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบัญชีและการเงิน รายงานผลการดำเนินงานที่สำคัญในไตรมาสแรกของปี 2568 ของแต่ละกลุ่มธุรกิจ ดังนี้


กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน มี EBITDA 3,139 ล้านบาทปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100แม้ว่าค่าการกลั่นพื้นฐานเฉลี่ยจะลดลงในไตรมาสก่อน สืบเนื่องจาก Crack Spread ที่อ่อนตัวในทุกผลิตภัณฑ์ แต่ผลจากราคาน้ำมันดิบเดทเบรนท์ที่มีราคาต่ำกว่าดูไบในไตรมาส 1 ช่วยชดเชยผลกระทบของ Crack Spread ที่อ่อนตัวลงได้บางส่วน นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนหลักจากการรับรู้กำไรจากสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 788 ล้านบาท ซึ่งสามารถชดเชย Inventory Loss ที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด


กลุ่มธุรกิจการตลาด มี EBITDA 1,841 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 100เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากค่าการตลาดสุทธิที่ฟื้นตัวขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่ลดลง แม้ว่าปริมาณจำหน่ายรวมจะอ่อนตัวเล็กน้อยที่ 3,498 ล้านลิตร จากตลาดอุตสาหกรรมที่ชะลอตัว แต่ปริมาณจำหน่ายผ่านสถานีบริการสามารถขยายตัวได้เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเครื่องบินที่เพิ่มขึ้นตามปริมาณเที่ยวบินและภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง สามารถชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้บางส่วน ร่วมกับได้รับปัจจัยหนุนจากการผลักดันยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นผ่านช่องทางที่มีค่าการตลาดที่สูงขึ้น โดยมีส่วนแบ่งการตลาดผ่านสถานีบริการเพิ่มขึ้นเป็น จากร้อยละ 28.9 ณ สิ้นปี 2567 เป็นร้อยละ 29.3 ด้วยเครือข่ายสถานีบริการ 2,161 แห่งทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 1


กลุ่มธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด มี EBITDA 903 ล้านบาท โดยปริมาณผลิตไฟฟ้าลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นผลมาจากการสิ้นสุดการรับรู้รายได้จากโครงการในญี่ปุ่น ขณะที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน การอ่อนตัวหลักเกิดจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ที่ได้รับผลกระทบตามฤดูกาล และมีการปิดซ่อมบำรุงในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม บางส่วนสามารถชดเชยได้ด้วยส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 444 ล้านบาท โดยมีแรงสนับสนุนหลักจากธุรกิจไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกาที่มีอัตราการทำกำไรต่อหน่วยเพิ่มขึ้นจาก Spread ค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวสูงขึ้น


กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติ มี EBITDA 6,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลงร้อยละ 11เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยหลักจากปริมาณการจำหน่ายที่ลดลงหลังจากการขายแหล่งผลิต Yme ออกไปก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี EBITDA ไตรมาสนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากปริมาณการจำหน่ายของ OKEA ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่เฉลี่ย 39,070 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน มากกว่ากำลังผลิตตามสัญญา (Overlift) ของแหล่งผลิต Brage, Ivar Aasen และ Draugen นอกจากนี้ ราคาขายเฉลี่ยของน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเหลวปรับตัวสูงขึ้นตามฤดูกาล เช่นเดียวกับราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า จากความต้องการใช้ในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้ผลกระทบจากการรับรู้ขาดทุนด้อยค่าจาก Goodwill ที่เกิดจากการปรับประมาณการราคาน้ำมันล่วงหน้าที่ลดลง สามารถชดเชยได้ทั้งหมด โดยคิดเป็นมูลค่าราว 185 ล้านบาท

สำหรับฐานะทางการเงิน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 กลุ่มบริษัทบางจาก มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 27,613 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 1,013 ล้านบาท โดยหลักเกิดจากกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการลงทุนและจัดหาเงินใช้ไปมากกว่ากระแสเงินสดสุทธิได้มาจากกิจกรรมดำเนินงาน โดยอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อ


ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 35.50 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคไปทดสอบแนวต้านที่ 40.00 ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 38.50 และมีแนวต้านสำคัญที่ 40.00 แต่ถ้าปรับตัวลดลงต่ำกว่า 35.00 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 32.00

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

FACEBOOK : ทันหุ้นออนไลน์ คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

YOUTUBE : Thunhoon คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok : Thunhoon คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X