> SET > KKP

23 เมษายน 2025 เวลา 12:19 น.

KKP ราคาร่วง 3% โบรกปรับลดเป้าราคาหุ้น หลังแจ้งผลงานไตรมาส 1/68 ต่ำกว่าคาด


#kkp #ทันหุ้น – การซื้อขายหุ้นของธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP วันที่ 23 เม.ย.68 ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในช่วง 47.75-49.50 บาท ราคาหุ้นปิดครึ่งวันเช้าที่ 48.00 บาท -1.50 บาท หรือลดลง 3.03% มูลค่าการซื้อขาย 280.47 ล้านบาท

.

บล.กรุงศรีคงคำแนะนำ Reduce ราคาเหมาะสมปี 2568 ที่ 45.00 บาท เพราะมองว่ามีความเสี่ยงในเรื่องรายได้ด้านตลาดทุน และเรื่องค่าใช้จ่ายสำรอง ที่จะส่งผลต่อผลประกอบการ รวมถึง บล.กรุงศรีคงกำไรสุทธิปี 2568 คาดที่ 4.28 พันลบ. หดตัว -14% y-y มากสุดในกลุ่มธนาคาร สำหรับการประชุมนักวิเคราะห์ บล.กรุงศรีมองว่า KKP มีปัจจัยบวกด้านต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มปรับลดลงมาได้ แต่จะถูกชดเชยกับค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) ที่เพิ่มขึ้น จากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่ง KKP ยังไม่มีสำรองพิเศษสำหรับส่วนส่วนนี้

.

บล.เอเซียพลัสมองว่าแม้ NPL เช่าซื้อเริ่มนิ่ง ตามการคุมเข้มสินเชื่อเช่าซื้อ แต่เห็นความเสี่ยงจาก NPL กลุ่ม SME ไหลตกชั้นเพิ่ม จึงคาด Credit Cost ข้างหน้า ไม่ได้ลดลงเร็ว

การลดลงของ Cost of fund จะหนุนทิศทาง NII ดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี อย่างไรก็ดีปัจจัยบวกด้านรายได้ ถูกหักล้างด้วยมุมมอง Credit Cost ของฝ่ายวิจัยข้างต้น

ปรับลดกำไรสุทธิปี 2568 - 69 เฉลี่ย 11% จากการปรับลดสมมติฐานรายได้ ส่งผลให้ราคาเหมาะสมลดลงในอัตราเดียวกันมาที่ 51 บาท (เดิม 57 บาท)

กำไรทั้งปีมีโอกาสสูงที่จะลดลงต่อเป็นปีที่ 3 (ไตรมาส 1/68 กำไรลง 30% YoY) แต่ราคาหุ้นช่วง2 วันที่ผ่านมาหลังประกาศงบไตรมาส 1/68 ปรับฐาน 11% น่าจะสะท้อนไปแล้ว ขณะที่อัตราเงินปันผลตอบแทนราว 8% ต่อปี ช่วยจำกัดขาลงของราคาหุ้น บล.เอเซียพลัสคงแนะนำ Neutral ซึ่งในกลุ่มธ.พ. เช่าซื้อ ชอบ TISCO มากกว่า เพราะมี ROE ราว 15% สูงกว่า KKP ที่ 8%

.

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568-69 ลง -12% และ -22% ตามลำดับ สะท้อนผลประกอบการไตรมาส 1/68 ที่ต่ำกว่าคาดและปรับสมมติฐานให้อนุรักษ์นิยมยิ่งขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจซบเซาส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิหดตัว -9.5% ในปี 2568 และเติบโต+13.6% ในปี 2569

บล.ดีบีเอสฯคงคำแนะนำ “ถือ” เพื่อรับปันผลสูง แต่ลดราคาพื้นฐานเป็น 57.00 บาท (เดิม 59.00 บาท) โดยอิงกับ P/BV ปีนี้ที่ 0.7 เท่า (Mean-1SD) ทั้งนี้ แม้ว่าปัญหาคุณภาพสินทรัพย์ของ KKP ได้ผ่านจุดต่ำสุดต่ำสุดไปแต่การฟื้นตัวยังต้องใช้เวลา บล.ดีบีเอสฯแนะนำ “ถือ” จากอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าจูงใจ โดยคาดการณ์ของปี 2568 ไว้ที่ 8% ต่อปี

.

บล.เมย์แบงก์แนะนำ "ซื้อ" พร้อมปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 55.00 บาท (คิดเป็น P/BV ปี 67 ที่ 0.7 เท่า ROE ที่ 9.0%) จากเดิม 65.00 บาท หลังที่ปรับลดประมาณการกำไรปี 68-69 ลงเพื่อสะท้อนการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอ กำไรยังคงเผชิญแรงกดดันจากรายได้ที่ลดลงเร็วกว่าต้นทางการเงินและค่าใช้จ่ายดำเนินงานในไตรมาส 2 อย่างไรก็ตาม คาดว่าการลดต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเร็วกว่ารายได้ที่ลดลง และช่วยประคองกำไรได้ บล.เมย์แบงก์ยังชอบ KKP จากกลยุทธ์ในการเร่งขยายธุรกิจที่ให้ ROE สูง (ค่าธรรมเนียบริหารความมั่งคั่ง) และชะลอธุรกิจที่ให้ ROE ต่ำ (สินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำ) ทั้งนี้ หุ้นมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจที่ 8.4% จากอัตราการจ่ายปันผลที่ 60% ของกำไรในปี 68 ความเสี่ยงหลักคือคุณภาพสินทรัพย์และการลดต้นทุนที่อาจต่ำว่าคาด




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

Facebook คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Youtube คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
Telegram คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X