#XPG #ทันหุ้น-สวัสดีครับนักลงทุนทุกท่าน วันนี้ผมมีประเด็นที่น่าสนใจที่จะทำให้นักลงทุนเข้าใจเกณฑ์ Short Sell ของตลาดหลักทรัพย์มากขึ้นครับ โดยเกณฑ์ใหม่ที่ตลาดหลักทรัพย์เพิ่งประกาศใช้เมื่อ 17 เม.ย. คือ อนุญาตให้ Short Sell ได้เฉพาะหุ้นใน SET100 และต้อง Short โดยใช้มาตรการ Uptick Rule ด้วย ทำให้นักลงทุนโดยมาก รวมถึงตัวผมด้วย เข้าใจว่าหุ้นนอก SET100 จะไม่สามารถ Short Sell ได้แล้ว สังเกตได้จากพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของดัชนี sSET และ mai ปรับตัวขึ้นแรงกว่า SET Index ในวันที่ 16-17 เม.ย. โดย sSET +4.6% และ mai +4.7% ขณะที่ SET Index +1.2%

แต่ปรากฏว่าไม่ใช่เป็นอย่างที่ผมเข้าใจ กล่าวคือ หุ้นนอก SET100 ที่มีขนาดกลาง-เล็กยังสามารถ Short Sell ได้อีกหลายหลักทรัพย์ โดยนักลงทุนสามารถเข้าไปดูรายชื่อหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้ Short Sell ได้จาก Website ของตลาดหลักทรัพย์ในหน้าข้อมูลการซื้อขาย -> ธุรกรรมการขายชอร์ต -> รายชื่อหลักทรัพย์ที่ขายชอร์ต ซึ่งถ้าเปิดดูใน File ดังกล่าวจะมีหุ้นและ DR มากถึง 264 หลักทรัพย์ที่ตลาดหลักทรัพย์อนุญาตให้ Short Sell ได้ มากกว่าเกณฑ์ที่ประกาศว่าให้ Short Sell ได้เฉพาะหุ้นใน SET100 ถึง 2.6 เท่า

สาเหตุที่หุ้นนอก SET100 ยังสามารถ Short Sell ได้เป็นเพราะมีเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ยกเว้นไว้ คือ ให้ Short Sell หุ้นอ้างอิงของ DW, ETF, และ Single Stock Futures ได้ด้วย ทำให้หุ้นที่ไปอ้างอิงในเครื่องมือทางการเงินเหล่านั้นสามารถทำ Short Sell ได้ ซึ่ง DW และ Single Stock Futures ส่วนใหญ่เป็นหุ้นใน SET100 อยู่แล้ว แต่ ETF ที่ลงทุนในประเทศไทย คือ 1DIV, BMSCG, BMSCITH, BSET100, ENGY, TDEX โดยเฉพาะ BMSCG ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็กเป็นหลัก มีการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในหลายหลักทรัพย์ ทำให้หุ้นนอก SET100 สามารถถูก Short Sell ได้ด้วย ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ให้เหตุผลว่า ETF เหล่านี้ต้องบริหารพอร์ตการลงทุนโดยการทำ Hedging แบบ Real Time เพื่อให้ราคาหน่วยลงทุนใกล้เคียงกับหุ้นหรือดัชนีอ้างอิงมากที่สุด และผมเข้าใจว่า ถ้าเปิดให้กองทุนทำ Short Sell ได้ นักลงทุนรายบุคคลหรือต่างชาติก็ต้อง Short Sell ได้ด้วย เพื่อความเท่าเทียมในการลงทุน จึงทำให้มีหุ้นและ DR มากถึง 264 หลักทรัพย์ที่ยังสามารถ Short Sell ได้

อย่างไรก็ตาม แม้เกณฑ์ใหม่จะออกมาแล้ว ทำให้จำนวนหุ้นที่ Short Sell ได้ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่มีหุ้นกว่า 25 หลักทรัพย์ที่ถูกถอดออกจากรายชื่อหุ้นที่สามารถ Short Sell ได้ ทำให้กลายเป็นหุ้นที่ไม่สามารถ Short Sell ได้ในปัจจุบัน ได้แก่  AU, BBIK, DITTO, FORTH, HUMAN, JTS, KAMART, MASTER, MC, MEB, NER, NSL, ONEE, ROCTEC, SAK, SAV, SC, SGC, SHR, SINGER, SIS, SPA, SYNEX, XO, XPG ซึ่งหุ้นที่มีปริมาณ Short Sell คงค้างอยู่มากกว่าระดับ 1 ล้านหุ้น (อิงข้อมูล ณ วันที่ 17 เม.ย.) ผมคาดว่ามีโอกาสเกิดแรงซื้อคืนในลักษณะ Short Covering เพราะหลังจากนี้จะไม่มีแรง Short Sell มากดดันราคาหุ้นเพิ่มเติมแล้ว คือ AU 1.0 ล้านหุ้น, JTS 1.2 ล้านหุ้น, KAMART 1.7 ล้านหุ้น, ONEE 4.4 ล้านหุ้น, SC 7.1 ล้านหุ้น, XPG 19.2 ล้านหุ้น

โดยหุ้นที่ผมมองว่าน่าสนใจสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้นใน Short Covering Theme มากที่สุดคือ XPG เพราะ 1. มีจำนวนหุ้นถูก Short Sell คงค้างมากถึง 19.2 ล้านหุ้น มากที่สุดในหุ้นที่ไม่สามารถให้ Short Sell เพิ่มได้ 2. P/BV ต่ำเพียง 0.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มการเงินที่ 1.2 เท่า 3. ธุรกิจบริหารจัดการหนี้มีพัฒนาการดีขึ้นต่อเนื่อง และได้ประโยชน์จากมาตรการแก้หนี้ของภาครัฐ ช่วยหักล้างผลขาดทุนจากเงินลงทุน ทำให้ผลประกอบการ 1H/25 ยังทรงได้ดี และคาดว่าจะเร่งตัวขึ้นใน 2H/25

ทางเทคนิคมีแนวต้านที่ 0.92 บาท และ 1.00 บาท ตามลำดับ ส่วนแนวรับอยู่ที่ 0.80 บาท และจุดตัดขาดทุนอยู่ที่ 0.72 บาท สุดท้ายนี้ ขอให้นักลงทุนประสบความสำเร็จในการลงทุนทุกด้าน พบกันใหม่ในบทความฉบับหน้าครับ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

FACEBOOK : ทันหุ้นออนไลน์ คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews

YOUTUBE : Thunhoon คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

Tiktok : Thunhoon คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM : Thunhoon คลิก https://t.me/thunhoon_news

X : Thunhoon คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram : Thunhoon คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/