#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 1,140 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1,150 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1,190-1,200 แต่เราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,150 ยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไรลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,120 หรือ 1,100
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ TISCO หรือ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินทิสโก้ โดยมีธนาคารทิสโก้เป็นหลัก ซึ่งได้รับอนุมัติให้เป็นธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ ปัจจุบันให้บริการทางด้านการเงินอันประกอบด้วย บริการสินเชื่อลูกค้ารายย่อยและสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริการสินเชื่อพาณิชย์ธนกิจ บริการเงินฝากรายย่อย บริการลูกค้าธนบดีธนกิจ บริการตัวแทนขายประกันผ่านธนาคาร บริการจัดการการเงิน และบริการคัสโตเดียน
ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 68 มีกำไร 1,643 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.05 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 67 มีกำไร 1,733 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.16 บาท
TISCO แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 1/68กำไรสุทธิปรับตัวลดลง 5.2%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1.64พันล้านบาท จากรายได้ดอกเบี้ยลดลงตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกอบกับ การลดภาระดอกเบี้ยให้กับลูกหนี้เปราะบางที่เข้าร่วมโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" และยังมีการสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อรองรับการเติบโตของสินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง
เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/67 กำไรสุทธิลดลง 3.4% เป็นผลมาจากรายได้รวมอ่อนตัวลง 2.5% และค่าใช้จ่ายสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นจาก 0.6% มาเป็น 0.7% ของสินเชื่อเฉลี่ย โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 2.1% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการลดภาระดอกเบี้ยให้แก่ลูกหนี้ในโครงการ "คุณสู้ เราช่วย"
นอกจากนี้สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของบริษัทยังปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 2.42% ในไตรมาส 1/68 จากสิ้นปี 67 ที่ 2.35%ซึ่งเป็นผลมาจากแผนการดำเนินงานในปีที่ผ่านมาที่เน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่บริษัทก็ได้กลับมาระมัดระวังการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง ควบคู่ไปกับการบริหารความเสี่ยงและการตั้งสำรองที่รัดกุม ทำให้ในไตรมาส 1/68 เงินให้สินเชื่อลดลง 0.4% จากการชะลอตัวของสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และรายการระหว่างธนาคารและตลาดเงิน
ประกอบกับ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ได้รับผลกระทบจากตลาดรถยนต์ในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ส่งผลให้รายได้ค่าธรรมเนียมนายหน้าประกันภัยยังไม่ฟื้นตัว ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 0.9% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้รายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 1/68 ลดลง 3.3% จากไตรมาส 4/67แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัยนของปีก่อนรายได้ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 3.4% จากรายได้ของธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เพิ่มขึ้นจากการออกกองทุนใหม่ และรายได้ค่าหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นตามส่วนแบ่งตลาดของ บล.ทิสโก้ที่เพิ่มขึ้น
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2568เผชิญกับความท้าทายจากหลายปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากความตึงเครียดของสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ และเหตุแผ่นดินไหวที่สร้างความตื่นตระหนกและกระทบต่อความเชื่อมั่น กดดันภาคเศรษฐกิจที่เปราะบางอยู่แล้วให้อ่อนแอลงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังต้องจับตาความเสี่ยงใหม่จากมาตรการภาษีตอบโต้จากสหรัฐ ที่เริ่มขึ้นในเดือนเมษายน 2568 ทั้งนี้ ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2568จะยังมีความท้าทายสูง คาดการณ์ว่า จะเติบโตเพียง 1.5-2%โดยขึ้นอยู่กับผลของการเจรจาต่อรองอัตราภาษีกับสหรัฐและผลกระทบข้างเคียงในภูมิภาค
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 100 หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 95.50 โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 102 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้าเราคาดว่า น่าจะเป็นแนวต้านสำคัญ และมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 92.00
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์
https://www.facebook.com/thunhoonnews
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม