03 มีนาคม 2025 เวลา 06:55 น.
- วันจันทร์ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของจีน (Caixin Manufacturing PMI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.5 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.1 จุด ต่อด้วย ตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตของสหรัฐ (ISM Manufacturing PMI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 50.5 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 50.9 จุด และปิดท้ายด้วย เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานในฝั่งยุโรป (EU Core CPI) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.6% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ +2.7% YoY
-วันอังคาร ติดตามดัชนีรายงานความเชื่อมั่นของผู้บริโภคของญี่ปุ่นเดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 35.2 จุด และการรายงานตัวเลขอัตราการว่างงานของสหภาพยุโรป (EU unemployment rate) เดือน ม.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 6.3%
-วันพุธ ติดตามตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของจีน (Caixin Services PMI) เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 51.0 จุด ต่อด้วยตัวเลขเงินเฟ้อของไทย (TH inflation) เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +1.32% YoY และเงินเฟ้อไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (TH Core CPI) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ +0.83% YoY ปิดท้ายด้วยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของสหรัฐ (ISM Services PMI) ) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 53.0 จุดปรับตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 52.8 จุด
- วันพฤหัสบดี ติดตามนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB Main Refinancing Rate) ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% จากครั้งก่อนหน้า ต่อด้วย ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.42 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเศรฐกิจของสหรัฐ การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.55 แสนตำแหน่งเร่งตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.43 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.0% ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย : KS เราประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 1,180 – 1,220 จุด ปัจจัยต่างประเทศตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลดลงแรง หลังจากทรัมป์ประกาศผ่าน Truth Social ว่า สหรัฐจะเก็บภาษีนำเข้า 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. และจะเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากจีนขึ้นอีก 10%, ตัวเลขเศรษฐกิจอย่าง GDP 4Q/24 รายงานครั้งที่ 2 ออกมาที่ 2.3% เท่ากับครั้งแรก ไม่ได้มีพัฒนาการเชิงบวก แต่ Core PCE ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.5% เป็น 2.7% นอกจากนี้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐ ปรับลดลงโดยงบของ Nvidia ที่แม้จะค่อนข้างดี แต่อนาคตไม่แน่นอน จากการชะลอตัวของอัตราการเติบโต รวมถึง Gross Margin ที่ลดลงในช่วงเปลี่ยนผ่าน Product ด้านตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นโลก ขณะที่ กนง. มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.00% ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 มีโอกาสจะเติบโตได้ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้เดิมที่ 2.9% ในการประชุม กนง.รอบหน้า วันที่ 30 เม.ย.25 จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 25 อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะปรับมาอยู่ที่สูงกว่า 2.5% เล็กน้อย ขณะที่แรงขายกองทุน LTF สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มชะลอตัวลงเหลือวันละ 300-500 ล้านบาท โดยรวมตั้งแต่ต้นปีมียอดขายแล้ว 2.8 หมื่นล้านบาท
ประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1,180 – 1,220 จุด ตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลดลงแรงกังวลการเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐ และภาษีตอบโต้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอย ส่วนปัจจัยภายในประเทศ กนง. ลดอัตราดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 2.00% แรงขาย LTF เริ่มชะลอตัวลง เหลือวันละ 300-500 ล้านบาท YTD 2.8 หมื่นล้าน
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPALL จากการประกาศ “บริษัทยืนยันไม่มีความประสงค์เข้าร่วมลงทุนในบริษัทค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่น” ที่เป็นความกังวลในตลาดที่ผ่านมาพร้อมทั้งงบการเงินใน 4Q/24 ที่ออกมาดีกว่าคาด 9% เติบโตอย่างแข็งแกร่งจาก SSSG ใน 4Q/24 ที่เติบโตได้ราว 4.1% ในขณะที่ GPM มีการปรับตัวดีขึ้นราว 70bps YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นของแต่ละสินค้าปรับตัวดีขึ้นทั้งจาก Food และ Non-Food ในขณะที่ทั้งปี 2024 สามารถขยายสาขาได้ตามเป้าที่ 700 สาขา เราคาดว่าแนวโน้มการเติบโตยังคงส่งต่อมายังใน 1Q/25 นี้โดยเราคาด CPALL จะมี SSSG ใน 1Q/25 เติบโตราว 1-3% QTD จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายออนไลน์และการเติบโตของนักท่องเที่ยว
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CRC จากผลประกอบการในไตรมาส 4/24 ที่มีกำไรปกติเติบโตประมาณ 21% เมื่อเทียบกับปีก่อน และดีกว่าที่คาดไว้ราว 8% มาอยู่ที่ 2.97 พันล้านบาท หลังหักรายการพิเศษ โดยรายได้เติบโต 5.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน และ 10.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน ซึ่งการเติบโตหลักมาจากสาขาใหม่และการกลับมาเปิดสาขาที่ปรับปรุงในช่วงที่ผ่านมา เช่น เซ็นทรัล สาขาชิดลม และห้างรีนาเซนเต สาขา Flagship ที่มิลาน ในส่วนของ SSSG ไตรมาส 4/23 ยังติดลบประมาณ 1% ได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า ประกอบกับสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายที่ลดลงจาก 27.9% ในไตรมาส 4/23 เหลือ 27.3% ในไตรมาสนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร เราคาดว่า SSSG ในไตรมาส 1/25 ของ CRC จะยังสามารถเติบโตได้ดีที่ประมาณ 10-11% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
KS Research
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/thunhoonnews
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม