#ทันหุ้น - บล.บัวหลวง ส่องหุ้น บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ ตั้งเป้ารายได้โต 6-8% และกำไรโต 15-20% จากการเปิดโรงแรมและร้านอาหารเพิ่มทั่วโลก ไปยังประเทศใหม่ๆ ผ่านการลงทุนแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก และดอกเบี้ยจ่ายลด
บริษัทมองบวกจากกระแสซีรีย์ White Lotus จะเป็นบวกต่อการท่องเที่ยวไทยในภาพลักษณ์ท่องเที่ยวหรู สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวสูงขึ้น และโรงแรม 4 โรงของ MINT ที่ใช้ในการถ่ายทำ มียอดจองห้องพักสูงขึ้น และ ADR ปรับขึ้นแล้ว
ปัจจัยพื้นฐานชอบ MINT มากขึ้น และมองเห็นอัพไซด์จากประมาณการของฝ่ายวิจัย คงคำแนะนำ ซื้อ
ด้าน บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ "ซื้อ" MINT และราคาเป้าหมาย 38 บาท จาก (i) มุมมองเชิงบวกในการประชุมนักวิเคราะห์ผู้บริหารยังคงมองแนวโน้มที่มั่นใจต่อปีนี้จากการเพิ่มขึ้นของ RevPAR การปรับแบรนด์โรงแรมและการปรับตำแหน่งทางการตลาดเพื่อเพิ่มอัตราค่าห้องพัก รวมถึงกลยุทธ์การลดหนี้สินที่ชัดเจน
(ii) ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไร โดยคาดกำไรจะเติบโต yoy ใน Q1/68 และคาดเติบโต 10% yoy ในปี ปี 68 มาที่ 9.2 พันล้านบาท และ (iii) MINT ซื้อขายที่เพียง 1.2x PBV และ 7x EV/EBITDA ปี 68 ซึ่งใกล้เคียงกับ -1.5SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลังเท่านั้น
ขณะที่ บล.ดาโอ คงคำแนะนำ “ซื้อ” MINT และราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 34.00 บาท จากเป้าที่ดีกว่าคาด, Q1/68 ลุ้นไม่ขาดทุน
โดยมองบวก จากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ จากเป้าหมายการเติบโตทั้งรายได้และกำไรดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด 1) ปี 2568 คาดรายได้รวมจะโตที่ 6-8% YoY (ฝ่ายวิจัยคาด 5%) โดยธุรกิจโรงแรมจะเพิ่มขึ้นได้ 6-8% YoY จากการยังเน้นการปรับค่าห้องพักเพิ่มขึ้น และธุรกิจอาหารจะโต 5-6% YoY จากไทยและจีน ขณะที่มีการตั้งเป้ากำไรจะโตได้ที่ 15-20% YoY (ฝ่ายวิจัยคาด 1%)
2) RevPAR เดือน ม.ค. 25 แบบไม่รวมยุโรป ยังเพิ่มขึ้นได้ดีที่ +12% YoY ส่วนยุโรปแม้ว่าเป็น Low Season แต่ยังเพิ่มขึ้นได้ที่ +5% YoY ด้าน SSSG ของไทยยังทรงตัว YoY 3) ปี 2568 มีแผนที่จะลด Net D/E เหลือ 0.75x จาก Q4/67 ที่ 0.80x โดยจะมีการชำระหนี้คืนในหุ้นกู้ยุโรป และเป็นเป้าที่ไม่รวมการจัดตั้ง REIT ขณะที่คาดว่า REIT น่าจะจัดตั้งเสร็จในช่วงปลายปี 2568 4) The White Lotus season 3 ส่งผลให้โรมแรมของ MINT ที่สมุยและภูเก็ต มี ADR เพิ่มขึ้นได้ถึง +40%
ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2568 ที่ 9.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +10% YoY จากการฟื้นตัวในทุกประเทศ โดยเฉพาะที่ไทยและยุโรป ขณะที่คาดว่า Q1/68 มีลุ้นจะไม่ขาดทุน (ปกติจะมีผลขาดทุนตลอดในช่วง Q1) จากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงและยุโรปยังโต YoY ได้ดี โดยจะฟื้นตัว YoY เพราะเป็น High season ที่ไทยและมัลดีฟส์แต่จะลดลง QoQ เพราะเป็นช่วง Low season ที่ยุโรป
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น +22% และ +23% ในช่วง 1 และ 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET จากกำไร Q4/67 ที่ดีกว่าคาดไว้เบื้องต้น ขณะที่มีผลกระทบจากค่าเงินที่ลดลง ด้าน valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯ ซื้อขาย 2568 EV/EBITDA ที่ 9x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA
ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม