> กองทุน > SUPEREIF

17 กุมภาพันธ์ 2025 เวลา 13:49 น.

"SUPEREIF" จ่ายปันผล 0.03116 บ./หน่วย 17 มี.ค.นี้

#ทันหุ้น - นายพรชลิต  พลอยกระจ่าง  กรรมการผู้จัดการ  Head  of  Real  Estate  &  Infrastructure  Investment  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด  หรือ  BBLAM  เปิดเผยว่า  กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) จะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 21 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 หรือระหว่างวันที่ 1  ตุลาคม 2567  ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ในอัตราหน่วยลงทุนละ  0.03116 บาท และจะจ่ายเงินลดทุนครั้งที่  5  จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่  2-4 ปี 2567  (หรือระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 31  ธันวาคม 2567)   ในอัตรา 0.214 บาทต่อหน่วย  โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผล  ในวันที่  3  มีนาคม  2568  อีกทั้งกำหนดจ่ายเงินปันผลและเงินลดทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 17 มีนาคม 2568


เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน  จนถึงการประกาศจ่ายเงินครั้งล่าสุด  SUPEREIF  จ่ายเงินปันผลรวม  21 ครั้ง  คิดเป็นเงิน  3.69564 บาทต่อหน่วย  และจ่ายเงินลดทุนไป  5 ครั้ง   คิดเป็นเงิน  0.715 บาทต่อหน่วย  รวมเป็นเงินปันผลและเงินลดทุนที่จ่ายออกไปทั้งสิ้น 4.41064 บาทต่อหน่วย


โดยตั้งแต่ปีปฏิทิน  2566  เป็นต้นไป  หากกองทุนฯ   จะจ่ายเงินลดทุนสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างปีปฏิทิน  กองทุนฯ  จะรวบรวมเงินลดทุนดังกล่าวไปจ่ายพร้อมกับเงินจ่ายที่จะพิจารณาจากรอบผลการดำเนินงานสุดท้ายของปีปฏิทินนั้นๆ  โดยสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 กองทุนฯ มีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 11.1 ล้านบาท หรือ 0.02163 บาทต่อหน่วย  สำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1  กรกฎาคม 2567   ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 กองทุนฯ  มีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ  ประมาณ  10.8  ล้านบาท  หรือ  0.02106 บาทต่อหน่วย และสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 กองทุนฯ จะมีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 88.3 ล้านบาท หรือ 0.17137 บาทต่อหน่วย


สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี  2567 พบว่า รายได้รวม เท่ากับ 195.1 ล้านบาท ลดลง 4.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 16.5% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักของการลดลงดังกล่าวเป็นเพราะรายได้อื่นลดลง 99.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 159.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากค่าใช้จ่ายรวมลดลงในอัตราที่สูงกว่าการลดลงของรายได้รวม และมีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 81.5% เพิ่มขึ้นจาก 76.9% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน


สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี  2567 พบว่ามีรายได้รวมเท่ากับ  791.8  ล้านบาท  ลดลง 3.3% จากปีก่อน  โดยสาเหตุหลักของการลดลงดังกล่าว  เป็นเพราะรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิลดลง  2.8% จากปีก่อน  เป็น  779.9 ล้านบาท  ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 622.4 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากปีก่อน สาเหตุจากรายได้รวมลดลง และมีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 78.6% เพิ่มขึ้นจาก 77.2% ในปีก่อน


กองทุนรวม SUPEREIF ลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิจากการดำเนินโครงการกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาดเล็กมากของบริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 19 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ  ปราจีนบุรี  สระแก้ว  พิจิตร   และเพชรบูรณ์  โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุดที่เสนอขายตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค  หรือการไฟฟ้านครหลวง (แล้วแต่กรณี) รวม 118 เมกะวัตต์


ขณะที่ ระยะเวลาโอนสิทธิรายได้สุทธิ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม  2562 จนถึงวันสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแต่ละโครงการ ซึ่งระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้าภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 21-22 ปี นับจากวันที่  14  สิงหาคม 2562 โดยวันสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโครงการสุดท้ายจะสิ้นสุดในวันที่ 26 ธันวาคม 2584

 

ช่องทางเฟสบุ๊ก ติดตามข่าวได้ที่เพจ ทันหุ้นออนไลน์

https://www.facebook.com/thunhoonnews

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X