#AAI #ทันหุ้น - AAI เล็งผลงานปี 2568 เติบโตต่อเนื่อง รับแรงหนุนกำลังการผลิตไตรมาส 1/2568 เพิ่มขึ้นอีก 3,000 ตัน มั่นใจไม่ได้รับผลกระทบจากนโยบาย “ทรัมป์” ในการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่ประเมินทิศทางเงินบาทแข็งค่าขึ้น พร้อมเตรียมขยายตลาดไปยังแถบประเทศตะวันออกกลาง

นางสาววรัญรัชต์  อัสสานุพงศ์  ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ AAI ผู้รับจ้างผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า แนวโน้มรายได้ปี 2568 คาดเติบโตจากปี 2567 ที่ตั้งเป้าหมายไว้ 6,500 ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 1/2568 จะมีจำนวนกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 3,000 ตัน จากการเปิดคลังสินค้าใหม่ที่ชะลอการเปิดตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้จะมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 59,000 ตัน

ในส่วนภาพรวมการส่งออกที่จะได้รับผลกระทบจากนโยบายของ “ทรัมป์” ประเมินว่าบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงยังเป็นสินค้าที่จำเป็น ซึ่งตัวเลขการส่งออกอาหารสัตว์ไทยยังขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่ทิศทางค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เป็นแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ซึ่งต้องใช้เวลาในการบริหารจัดการทำให้ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

@รุกตะวันออกกลาง

ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง ไปที่ประเทศตะวันออกกลางเพิ่มเติม จากเดิมที่มีประเทศสหรัฐ และประเทศยุโรป เป็นตลาดหลัก โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 90%

บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด  คาดว่าผลงาน AAI ไตรมาส 4/2567 จะมีกำไรที่ 201 ล้านบาท (+21% YoY, -30% QoQ) โดยคาดว่า 1. รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น +18%YoY จากฐานต่ำในปีที่ผ่านมาจากผลกระทบการระบายสต๊อกสินค้าเก่า แต่รายได้ลดลง -15%QoQ เนื่องจากช่วงเดือนธันวาคมมีการเลื่อนการส่งออกไปเดือน มกราคมบางส่วนจากการหยุดการเดินเรือ ในช่วงเทศกาลวันหยุด

ทั้งนี้สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงล่าสุดเดือน พฤศจิกาย 2567 เพิ่มขึ้น 1% MoM เป็นกลุ่มสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 7% MoM อย่างไรก็ตามค่าเฉลี่ย QTD เทียบกับไตรมาส 3/2567 ลดลง 11%QoQ และเป็นกลุ่มสหรัฐ ลดลง 7%QoQ  ส่วนค่าเงินบาท ในช่วงไตรมาส 4/2567 เริ่มอ่อนค่าเล็กน้อย 0.7%QoQ  (สัดส่วนรายได้เป็นดอลลาร์สหรัฐ 93% และต้นทุนที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นประมาณ 20%)

2. คาดว่าธุรกิจ Human Food ลดลงจากการเน้นธุรกิจ Pet Food และเป็นช่วง Low Season การส่งออกเดือนธันวาคม เราคาดอัตรามาร์จิ้นเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ จากต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับลดลงและเพิ่มขึ้น สำหรับ SG&A to Sale ลดลง YoY และทรงตัว QoQ จากการลดค่าโฆษณาลดลงจากการปรับนโยบายในการทำการตลาดสินค้ากลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงภายใต้แบรนด์ของบริษัท

เคาะ “ซื้อ”-เป้า 8.50 บ.

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิเคราะห์ คาดกำไรสุทธิปี 2567-2568 เพิ่มขึ้น 170% YoY และบวก 1%YoY จาก 1. ธุรกิจ Pet Food คาดรายได้เติบโต 34% YoY และ 12% ตามลำดับ จากยอดขายรับจ้างผลิต หรือ OEM ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าปัจจุบันทั้งรายเก่าและรายใหม่ที่มีการขยายตลาดแย่งส่วนแบ่งการตลาด การออกสินค้าใหม่ Functional Pet Food ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้น

2. ธุรกิจ Human Food ปี 2567 คาดลดลง 24%YoY และปีถัดไปจะเพิ่มขึ้น 5%เนื่องจากตลาดหลักในตะวันออกกลางยังมีปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค และค่าเดินเรือที่แพงขึ้นจากปัญหาทะเลแดง   แต่ในส่วนอเมริกาไม่มีปัญหา สำหรับค่าขนส่งทางเรือมีการปรับเพิ่มขึ้นจากเรือที่ขาดแคลนแต่บริษัทขายสินค้าเป็น Free on Board หรือ FOB ทางคู่ค้าเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่าย

คำแนะนำ “ซื้อ” จากคาดการณ์ Demand อาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกที่ยังเติบโต ราคาเป้าหมายคงที่อยู่ที่ 8.50 บาท อ้างอิงกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยงที่เฉลี่ย P/E Ratio ปี 2568 ที่ 17 เท่า และคาดเงินปันผล Dividend Yield ที่ 4% บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash ไม่มีหนี้

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/