> SET > GULF

17 ธันวาคม 2024 เวลา 09:15 น.

แนวโน้มปี 2568-กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP จะกลับมา


#หุ้นโรงไฟฟ้า #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.บัวหลวง


แนวโน้มปี 2568-กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP จะกลับมา

ราคาก๊าซมีแนวโน้มลดลงเร็วกว่าอัตราค่าไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของมาร์จิ้นในหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP กระแสพลังงานทดแทนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และดาต้าเซ็นเตอร์จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญสำหรับโรงไฟฟ้า SPP แต่ภาษี BEPS 2.0 ที่มีการเสนออาจสร้างดาวน์ไซด์เล็กน้อย


ราคาก๊าซลดลง โรงไฟฟ้า SPP เติบโตขึ้น

PTT คาดว่าราคาก๊าซเฉลี่ยในปี 2568 จะอยู่ที่ 301 บาท/ล้านบีทียู ซึ่งลดลง 3% YoY หนุนจากแนวโน้มราคาก๊าซ LNG ทั่วโลกที่ลดลงและสัดส่วนก๊าซจากอ่าวไทย (ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าแหล่งอื่น) ที่เพิ่มขึ้นในสัดส่วนของก๊าซรวม นอกจากนี้ เราคาดว่า กกพ.จะคงอัตราค่าไฟฟ้าในช่วง 4.15-4.18 บาทต่อหน่วยในปี 2568 เพื่อช่วยให้ กฟผ. สามารถชำระภาระต้นทุนก๊าซ 8.5 หมื่นล้านบาทได้ภายในสองปี สถานการณ์นี้จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP เช่น BGRIM, GPSC และ WHAUP


พลังงานทดแทน: เร่งเพิ่มพลังงานสีเขียวหลาย GW

การประมูลพลังงานทดแทนขนาด 2.2 GW ของ กกพ. ได้ถูกระงับตามคำสั่งของกระทรวงพลังงาน เพื่อรอการตรวจสอบทางกฎหมาย แต่เราคาดว่าการประมูลนี้จะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ตามด้วยการประมูลอีก 1.4 GW ในช่วงที่เหลือของปี 2568 นอกจากนี้ PDP2024ใหม่ควรจะกำหนดการจัดสรรพลังงานทดแทนเพิ่มอีก 30 GW ที่จะเปิดประมูลในช่วงทศวรรษหน้าโดยคาดว่าจะมีประมาณ 10 GW ที่สามารถเริ่มเปิดรับการประมูลใน 1-2 ปีข้างหน้า แนวโน้มการขยายกำลังผลิตพลังงานทดแทนที่แข็งแกร่งนี้จะสร้างมุมมองเชิงบวกในตลาดต่อ GULF, GUNKUL และ WHAUP


ดาต้าเซ็นเตอร์เป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับโรงไฟฟ้า SPP

การจัดตั้งดาต้าเซนเตอร์ในนิคมอุตสาหกรรมไทยเปิดโอกาสให้กับโรงไฟฟ้า SPP ก๊าซในการลดการพึ่งพาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ (PPA) กฟผ. ซึ่งจากบางโรงงานอุตสาหกรรมที่ความต้องการไฟฟ้ามีความผันผวน โดยดาต้าเซ็นเตอร์ต้องการไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ส่งผลให้โรงไฟฟ้า SPP สามารถรักษาอัตราการใช้กำลังการผลิตให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และสามารถลดต้นทุนเชื้อเพลิงได้ ดาต้าเซนเตอร์สามารถให้ความสำคัญกับไฟฟ้าที่มีต้นทุนต่ำและมีความน่าเชื่อถือจากโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซ พร้อมทั้งรับรองความสอดคล้องกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมโดยการซื้อใบรับรองพลังงานทดแทน BGRIM, GULF และ WHAUP จะได้รับประโยชน์จากแนวโน้มนี้


ความเสี่ยงเล็กน้อยจากภาษี BEPS 2.0 ที่เสนอ

กรอบภาษี Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) 2.0 ที่เสนอโดย OECD จะกำหนดอัตราภาษีขั้นต่ำทั่วโลกที่ 15% สำหรับองค์กรข้ามชาติ (MNEs) ที่มีรายได้รวมเกิน 750 ล้านยูโร (ประมาณ 2.8หมื่นล้านบาท) ภายใต้สถานการณ์ที่แย่ที่สุด อาจมีความเสี่ยงขาลงในประมาณการกำไรหลักของเราในปี 2568สำหรับ GULF ลดลง 5-6% และสำหรับ BGRIM ลดลง 3-4% อย่างไรก็ตาม มาตรการจาก BOI ที่อาจเกิดขึ้นอาจช่วยบรรเทาหรือชดเชยผลกระทบดังกล่าวได้




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

X คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X