#ทันหุ้น-ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงต่อเนื่องเข้าใกล้แนวรับสำคัญที่ 1,410-1,415 จากการปรับตัวลดลงของหุ้น CPAXT และ CPALL จากความกังวลในการเข้าลงทุนบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของ CPAXT แต่เราคาดว่า การปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,410-1,415 น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวกลับขึ้นไป โดยมีแนวต้านที่ 1,430 และมีแนวต้านสำคัญที่ 1,450
สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ CENTEL หรือ บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจแบ่งเป็น 2 ธุรกิจ คือ 1. ธุรกิจโรงแรม ในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ของตนเอง รวมถึงธุรกิจรับจ้างบริหารโรงแรมภายใต้สัญญาบริหารโรงแรม 2. ธุรกิจอาหารในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ของตนเอง และแฟรนไชส์
ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 67 มีกำไร 163 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.12 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.05 บาท
ส่วนผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 67 มีกำไร 1,085 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.80 บาท เมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 66 ที่มีกำไรสุทธิ 823 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.61 บาท
นายกันย์ ศรีสมพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน และรองประธานฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL เปิดเผยในงาน "Opportunity Day" ว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะทำได้ประมาณ 28,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นรายได้รวมจากธุรกิจโรงแรมประมาณ 12,000 ล้านบาท และรายได้รวมจากธุรกิจอาหารประมาณ 16,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ของธุรกิจโรงแรมประมาณ 61% มาจากกลุ่มโรงแรมในประเทศ และอีก 39% มาจากโรงแรมในต่างประเทศ อาทิ ดูไบ, โอซาก้า และมัลดีฟส์
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (Occupancy Rate) ปีนี้อยู่ที่ 70-73% ขณะที่รายได้ต่อห้องพักเฉลี่ย (RevPAR) อยู่ที่ 4,000-4,300 บาท ด้านธุรกิจอาหารคาดยอดขายของสาขาเดิม (SSS) เติบโต 1-3% และอัตราการเติบโตจากยอดขายรวม (TSS) เพิ่มขึ้น 4-6% ส่วนการเปลี่ยนแปลงของจำนวนร้านค้า รวมถึงแบรนด์กิจการร่วมค้าคาดทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อยราว 20 สาขา โดยบริษัทมีการปรับกลยุทธ์โดยการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรออกไปและทำโปรโมชั่นด้วยความระมัดระวังมากขึ้น
ด้านงบลงทุนปีนี้อยู่ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท เป็นการลงทุนในส่วนของธุรกิจโรงแรมเป็นหลัก ได้แก่ การก่อสร้างโรงแรมแห่งใหม่ในประเทศมัลดีฟส์ และการปรับปรุงโรงแรมในพัทยาและภูเก็ต ส่วนงบลงทุนในธุรกิจอาหารใช้ขยายสาขาประมาณปีละ 1,000 ล้านบาท
ส่วนงบลงทุนปีหน้าคาดว่าจะปรับตัวลดลงจากปีนี้เล็กน้อย เนื่องจากจะมีการปรับปรุงในส่วนของโรงแรมที่กระบี่และหัวหิน รวมถึงมีการเตรียมงบไว้สำหรับการขยายโอกาสใหม่ๆ อีกราว 1,000-2,000 ล้านบาท
แนวโน้มผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/67 คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงแรมทั้งในไทย ดูไบ และญี่ปุ่น โดยในช่วง 2เดือนที่ผ่านมาพบว่ายอดจองห้องพักเติบโตราว 5-6%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่วนด้านธุรกิจอาหารยังค่อนข้างผันผวน แต่คาดว่าทั้งปียอดขายของสาขาเดิมและอัตราการเติบโตจากยอดขายรวมจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ บริษัทตั้งเป้าปี 68 จะเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ในประเทศมัลดีฟส์ภายในช่วงเดือน ก.พ.68 หลังจากที่มีการเปิดดำเนินการไปแล้ว 1 แห่ง ในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะช่วยหนุนให้รายได้รวมในปีหน้าปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับคาดว่าจะได้ผลกระทบเชิงบวกจากการจัดงาน World Expo ที่โอซาก้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้โรงแรมในโอซาก้าของบริษัทสามารถปรับราคาห้องพักเพิ่มขึ้นได้ รวมถึงโรงแรมที่พัทยาและภูเก็ตจะเริ่มกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้ง หลังจากปิดปรับปรุงในปีที่ผ่านมา
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับในระยะสั้นที่ 34.00 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่ระดับ 30.00 กลับขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 37.50 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 40.00 และ 43.00 แต่มีแนวรับสำคัญที่ 34.00 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 30.00
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม