CENTEL อยู่ในช่วงขยายธุรกิจ บล.ดีบีเอสฯให้เป้า 42 บ.

#CENTEL #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์หุ้น CENTEL โดย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส

ยังคงอยู่ในช่วงขยายธุรกิจ

Core profit งวด 9 เดือน 2567 เติบโตแกร่ง 56%YoY เป็น 1.18 พันล้านบาทจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม ReVPar (ไม่รวมดูไบ) เพิ่มขึ้น 16% โดยหลักมาจากโรงแรมในญี่ปุ่น ขณะที่ในไทยก็แข็งแกร่ง และอยู่สูงกว่าก่อนโควิด, ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ (ในงวด 9 เดือน 2566 มีค่าใช้จ่ายก่อนเปิดโรงแรม Centara Grand Hotel Osaka), ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น (จากโรงแรม Centara Mirage Beach Resort Dubai มีผลประกอบการดีขึ้น) อย่างไรก็ดี มีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายภาษีในการ write off สินทรัพย์ ทำให้กำไรสุทธิขยายตัว 32%%YoY เป็น 1.09 พันล้านบาท

รายได้ธุรกิจอาหารเพิ่มขึ้นในช่วง 9 เดือน 2567 โดย SSSG เพิ่มเล็กน้อย 2%YoY และเปิดสาขาเพิ่มขึ้น โดยในช่วง9 เดือน 2567 เปิดสาขาใหม่ 149 แห่งรวมเป็น 1,396 แห่ง (สิ้น 9 เดือน 2562 อยู่ที่ 1,029 แห่ง)

ในเดือนต.ค.67 การเติบโตของ RevPar โรงแรม และ SSSG ของอาหารชะลอลง แต่คาดว่าจะดีขึ้นในเดือนธ.ค.67 ทั้งนี้ในเดือนต.ค.ปีนี้ อัตราค่าห้องพัก (ARR) โรงแรม (ไม่รวมดูไป) เพิ่มราว 4%YoY แต่อัตราการเข้าพัก (OR) ทรงตัว โดยโรงแรมในไทยและญี่ปุ่นยังโตแข็งแกร่ง แต่โรงแรมในมัลดีฟท์หดตัวทั้ง ARR และ OR อย่างไรก็ดี คาดว่า RevPar โดยรวมจะดีขึ้นในเดือนพ.ย.-ธ.ค. ซึ่งเป็นช่วง high season ของภาคท่องเที่ยว

ธุรกิจอาหารมี SSSG อ่อนลงในเดือนต.ค. เพราะการแข่งขันสูง และไม่ได้อานิสงส์การแจกเงินหมื่นให้กลุ่มเปราะบางนัก แต่คาดว่าผลดำเนินงานจะดีขึ้นในช่วงธ.ค.ซึ่งมีเทศกาลเฉลิมฉลอง

ปรับกลยุทธ์ธุรกิจไปใช้โมเดล Asset light ในระยะยาว และขยายการลงทุนไปในต่างประเทศ โดยหลักคือ ตลาดเอเชีย มากขึ้น ในช่วงปี 2568-70บริษัทมีแผนเปิดโรงแรมของตนเองเพียง 1 แห่ง แต่มีเป้าบริหารโรงแรมทั้งในไทยและต่างประเทศเพิ่ม 33 แห่ง ทำให้จะมีโรงแรมภายใต้ CENTEL ทั้งหมด 92 แห่ง

บล.ดีบีเอสฯ คงคำแนะนำ “ถือ” ให้ราคาพื้นฐาน 42 บาท (DCF) ทั้งนี้คาดการณ์ Core profit ปี 2568-69 ขยายตัว 14% และ 11% ตามลำดับ ปัจจัยที่เป็น Upside risk คือ การเข้าซื้อกิจการเพิ่มเติม (M&A)