CHG สะท้อนข่าวลบไปมากแล้ว โบรกแนะสะสมเมื่ออ่อนตัว

#CHG #ทันหุ้น – บทวิเคราะห์ โดย บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส

สะท้อนข่าวลบไปมากแล้ว

คาดการเติบโตของกำไรสุทธิ (CAGR) ในช่วงปี 2567-69 เฉลี่ยอยู่ที่ 11% ต่อปี โดยได้รับแรงหนุนจาก 1) การเติบโตของรายได้ที่ 7% ต่อปี, 2) EBITDA margin ที่ 22.8%-23.5% ปัจจัยหนุนการเติบโตมาจาก การขยายตัวของรายได้โรงพยาบาลหลัก (CHG 3/9/11 ซึ่งทำรายได้ราว 71% ของทั้งหมด), GPM เพิ่มขึ้น, และโรงพยาบาลที่แม่สอดขาดทุนน้อยลง รวมทั้งไม่มีการคืนรายได้ในส่วนคนไข้ประกันสังคมที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงในปี 2568

ระยะยาวยังเติบโตต่อเนื่องและมาร์จิ้นดีขึ้น ทั้งจากการเพิ่มเตียงคนไข้ 100 เตียงที่ CHG3 และ CHG9 ในช่วงไตรมาส 4/69-1/70 รวมถึง GPM เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากรายได้จากศูนย์รักษาเฉพาะทางสูงขึ้น การปรับขึ้นราคา อัตราการใช้บริการสูงขึ้น และการยกเลิกสัญญาบริหารสถานพยาบาลที่ให้มาร์จิ้นต่ำ

ยกเลิกการสัญญาบริหารที่ให้ผลตอบแทนต่ำ โดยจะยกเลิกสัญญากับ Pattaya City Hospital ในเดือนต.ค.67 เพราะต้องใช้เวลาบริหารงานมากแต่กำไรน้อย (อัตรากำไรสุทธิต่ำกว่า 10%) และคาดว่าจะยกเลิกสัญญาบริหาร Koh Lan Medical Center ในปลายปี 68

ร.พ.แม่สอดขาดทุนลดลงในปี 2568 ผู้บริหารคาดร.พ. CHG แม่สอดจะขาดทุน 50-60 ล้านบาทในปี 2567 และขาดทุนลดลงเป็น 30-40 ล้านบาทในปี 2568 (สำหรับไตรมาส 3/67 ขาดทุน 11-12 ล้านบาท)

ความผันผวนของรายได้จากสนง.ประกันสังคมน้อยลง คณะกรรมการการแพทย์ของสนง.ประกันสังคม (SSO) ได้อนุมัติระบบการชำระเงินแบบคงที่สำหรับการรักษาที่มีต้นทุนสูง โดยกำหนดเพดานที่ 12,000 บาท adj,RW ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากระบบก่อนหน้าที่มีงบประมาณรวม 746 บาท/หัว/ปี ไปสู่ระบบงบประมาณแบบปิดที่ไม่มีการจำกัดวงเงิน แต่ร.พ.จะถูกตรวจสอบเรื่องการรักษามากขึ้น เริ่มตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

งบประมาณสำหรับการรักษาที่มีต้นทุนสูงในปี 2567 อาจไม่เพียงพอ โดยการชำระเงินคาดว่าจะอยู่ในช่วง 7,200-9,000 บาท/adj.RW ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการชำระเงินในรอบหลังของปี 2567 ในกรณีที่แย่ คือ CHG อาจต้อง reverse รายได้ออกราว 123 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นความเสี่ยงขาลง 11% ต่อกำไรในปี 2567

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ โดยการลดลง YoY มาจากฐานกำไรไตรมาส 4/66 ที่สูง และเราให้สมมติฐานว่า CHG จะได้รับเงินรักษาโรคที่มีต้นทุนส่งในการเบิก 6 รอบสุดท้ายในไตรมาส 4/67 ที่ 7,200 บาท adj.RW ส่วนการลด QoQ เป็นผลจากปัจจัยฤดูกาล

การอ่อนตัวเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสม ให้ราคาพื้นฐาน 3.30 บาท (DCF) ทั้งนี้ คาดการณ์ว่ากำกำไรสุทธิปี 2568-69 จะเติบใต้ต่อเนื่อง, CHG ผ่านช่วงที่ต้องลงทุนมากไปแล้ว การขยายธุรกิจในปี 2568-69 ใช้กระแสเงินสดภายในเป็นหลัก, ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ Mean-1SD