#CPALL #ทันหุ้น - ภายหลังจาก CPALL แจ้งผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาด โบรกเกอร์ได้ออกบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 14 พ.ย. มีมุมมองไปในทางเดียวกันโบรกเกอร์ทุกรายให้คำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเหมาะสมในช่วง 79-91 บาท ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของ CPALL มีกำไรสุทธิที่ระดับ 1.8 หมื่นล้านบาท โบรกเกอร์คาดการณ์ว่าผลงานที่งปี 2567 น่าจะทำกำไรสุทธิได้ในช่วง 2.2-2.5 หมื่นล้านบาท โดยโบรกเกอร์มีมุมมองต่างๆ ดังนี้
บล.บัวหลวง มองว่าหุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กำไรมากกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาด โดยรายงานกำไรหลักไตรมาส 3/67 ที่ 6.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 45% YoY และทรงตัว QoQ ซึ่งมากกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาด 7% (และมากกว่าตลาดคาด 8% อ้างอิงจาก Bloomberg) เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่าคาด โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 22.7% โดยฝ่ายวิจัยคาดที่ 22.3% เมื่อรวมค่าใช้จ่ายพิเศษจำนวน 582 ล้านบาท (ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายจากการควบบริษัทของ CPAXT) กำไรสุทธิของ CPALL อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% YoY แต่ลดลง 10% QoQ
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
บริษัทมีรายได้รวมที่ 2.344 แสนล้านบาท เติบโต 6% YoY แต่ลดลง 3% QoQ หากไม่รวมตัวเลขจาก CPAXT รายได้ของ 7-11 อย่างเดียวจะอยู่ที่ 1.079 แสนล้านบาท เติบโต 9% YoY แต่ลดลง 4% QoQ จำนวนลูกค้า 7-11 เฉลี่ยมาอยู่ที่ 964 ราย/ร้าน/วัน ปรับตัวขึ้น 1% YoY แต่ลดลง 4% QoQ (ปัจจัยฤดูกาล) โดยการใช้จ่ายของลูกค้าเฉลี่ยมาอยู่ที่ราว 84 บาท/บิล เพิ่มขึ้น 2% YoY แต่ลดลง 1% QoQ ณ สิ้น เดือน ก.ย. CPALL มีร้าน 7-Eleven ในประเทศไทยทั้งหมด 15,053 แห่ง (เปิดสาขาใหม่ 199 แห่งในช่วงไตรมาส 3/67 ในประเทศไทย) 98 สาขาในกัมพูชา และ 9 สาขาในลาว
อัตรากำไรขั้นต้นของ 7-11 อยู่ที่ 29.1% เพิ่มขึ้นจาก 27.9% ในไตรมาส 3/66 และ 29.0% ในไตรมาส 2/67 เนื่องจาก: 1) การจำแนกบัญชีใหม่ของส่วนลดที่มาจากโปรโมชั่นแสตมป์จากการลดราคาขายเป็นค่าใช้จ่ายทางการตลาด (ซึ่งเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น 50bps), 2) สัดส่วนที่ เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูง (ผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าดูแลร่างกาย), และ 3) ยอดขายบุหรี่ที่ลดลง
หากไม่รวมตัวเลขจาก CPAXT ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของ CPALL จะอยู่ที่ 3.15 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY (ต้นทุนพนักงานและค่าโฆษณาที่สูงขึ้น) แต่ลดลง 3% QoQ (ต้นทุนไฟฟ้าที่ลดลง)
แนวโน้ม
ฝ่ายวิจัยคาดกำไรไตรมาส 4/67 จะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ หนุนโดยการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (จากการตรวจสอบ ยอดขายสาขาเดิมเติบโต 2-4% ในเดือน ต.ค. สำหรับ 7-Eleven และ 1-3% สำหรับ CPAXT) และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
กำไรหลัก 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1.83 หมื่นล้านบาท (เพิ่มขึ้น 46%YoY) คิดเป็น 75% ของประมาณการกำไรหลักปี 2567 ที่ 2.45 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนกำไรหลักใน 9 เดือนแรกของปีในอดีตซึ่งอยู่ที่ 72% ของกำไรทั้งปี แม้ว่าฝ่ายวิจัยจะยังคงประมาณการไว้ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง แต่ฝ่ายวิจัยมองว่ายังมีอัพไซด์ต่อประมาณการปี 2567 ของ CPALL แนะนำซื้อ เป้าหมายพื้นฐาน 81.00 บาท
ด้าน บล.กรุงศรี ส่อง CPALL ดีขึ้นทุกรายการ กำไรสุทธิ 5.6 พันล้านบาท Q3/67 (+27% yoy, -10% qoq) เป็นไปตามประมาณการของ Bloomberg หากไม่รวมรายการที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก 554 ล้านบาท (ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าธรรมเนียมควบรวมสำหรับ CPAXT)
กำไรหลักอยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท (+45% yoy ทรงตัว qoq) สูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ 6% ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก SSSG 3.3% (การเติบโตของยอดขายสาขาเดิม) ในกลุ่ม CVS และอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มที่เพิ่มขึ้น 0.9ppt เป็น 22.7% โดยได้แรงหนุนจาก (1) การผสมผสานผลิตภัณฑ์อาหารสดที่ดีขึ้นในหน่วยการค้าส่งและค้าปลีก และ (2) ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารที่มีอัตรากำไรสูงกว่า (โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล) ที่ CVS
สำหรับไตรมาส 4 ปกติจะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดสำหรับ CPALL และกำไรน่าจะดีขึ้น qoq ฝ่ายวิจัยคาดว่า SSSG จะยังคงเป็นบวกในกลุ่มธุรกิจทั้งสามกลุ่ม คงคำแนะนำซื้อ และเป้าหมาย 80 บาท
ฟาก บล.เอเซีย พลัส ระบุ CPALL กำไรปกติ Q3/67 ดีกว่าคาดที่ 5.6 พันล้านบาท (รวมค่าใช้จ่ายพิเศษ 582 ล้านบาท) ลดลง 10% QoQ แต่โต 27% YoY ส่วนกำไรปกติอยู่ที่ 6.2 พันล้านบาท (+1% QoQ, +45% YoY) โดยกำไรที่ทรงตัว QoQ เพราะผลกระทบจากฤดูกาล กดดันให้ยอดขายทรงตัว ส่วนกำไรที่โต YoY เพราะยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากการเติบโตของทุกๆธุรกิจ (7-Eleven, และกลุ่ม CPAXT)
กำไรช่วง 9M67 มีสัดส่วนราว77% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี 2567 แต่ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปี 2567 - 2568 ไว้ตามเดิม เพราะเชื่อว่า upside ต่อประมาณการไม่มากนัก คงราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 91 บาท (คงอิง PER 31.5 เท่า, -0.5 SD) คงคำแนะนำ “Outperform” เพราะ 1) มีปัจจัยบวกจากกำไรปกติ Q3/67 ที่ดีกว่าคาดและ 2) แนวโน้มกำไรที่สดใส รออยู่ใน /Q67
ขณะที่ บล.เคจีไอ มองกำไรสุทธิของ CPALL ใน Q3/67 อยู่ที่ 5.6 พันล้านบาท (+27% YoY, -10% QoQ) เป็นไปตามประมาณการของฝ่ายวิจัยและของนักวิเคราะห์ในตลาด ซึ่งคาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีใน Q4/67 เพราะเป็นช่วง high season คงคำแนะนำ “ซื้อ” CPALL และประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 80.00 บาท
ส่วน บล.พาย ประเมิน CPALL ด้าน SSSG แข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุนกำไร Q3/67 โต YoY รายงานกำไรงวด Q3/67 ที่ 5.6 พันล้านบาท (+27%YoY) หลังหักรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 6.2 พันล้านบาท (+45%YoY) ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยและตลาดคาด 9% หนุนจากยอดขายสาขาเดิมของ 7-11 ที่เติบโต 3.3%YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานและ Personal Care ที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Makro +1.5% และ Lotus's +2.3%)
ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาดว่าแนวโน้มกำไร Q4/67 จะเติบโต YoY และ QoQ ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว การเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภท Ready-to eat เเ ละ Ready-to-drinks รวมถึงสินค้าใหม่ๆ จาก SMEโดยแนวโน้ม SSSG ช่วง QTD ของ Q4/67 ยัง +1% ถึง +3% คงคำแนะนำ "ซื้อ" มูลค่าพื้นฐาน 80.00 บาท (เดิม 79.00 บาท) หลัง Roll overไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2568
ด้าน บล.ฟิลลิป มุมมอง Q3/67 หุ้น CPALL กำไรต่ำกว่าคาดแต่ภาพยาวยังดี โดยยอดขาย Q3/67 ลดลงมาอยู่ที่ 234,044 ลบ. -2.9% q-q, +6.4% y-y ลดลง q-q ตามปัจจัยฤดูกาล และเพิ่มขึ้น y-y จากการปรับราคาขายสินค้า และ GPM ที่ 22.7% +29 bps จาก Q2/67 และมีกำไรสุทธิที่ 5,608 ลบ. -10.1% q-q, +26.8% y-y ทั้งนี้ กำไร 9M67 ที่ 18,167 ลบ. +39.9% y-y ต่ำกว่าคาดเล็กน้อยที่ 18,537 ลบ. ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาพื้นฐาน 83.00 บาท
สำหรับ บล.ดาโอ มอง CPALL กำไร Q3/67 โต YoY และลดลง QoQ ดีตามคาดจากทุกธุรกิจ คงคำแนะนำ “ซื้อ” และที่ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 84.00 บาท อิง 2567 PER ที่ 34x (หรือเท่ากับ -0.3SD below 5-yr avg. PER) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ Q3/67 ที่ 5.6 พันล้านบาท (+27% YoY, -10% QoQ) ดีตามคาด (กำไรปกติที่ 6.2 พันล้านบาท +44% YoY)
มีปัจจัยสำคัญ คือ 1) รายได้รวมอยู่ที่ 2.41 แสนล้านบาท +6% YoY และ -3% QoQ โดย SSSG ของ CPAXT ที่เป็นบวก และ CVS อยู่ที่ +3.3% 2) GPM รวมอยู่ที่ 22.7% (+90 bps YoY และ +30bps QoQ) โดย GPM ของ CVS อยู่ที่ 29.1% ยังคงหนุนหลักจากสินค้ากลุ่ม Ready to eat ที่มี margin สูงที่สุดในกลุ่ม และสัดส่วนยอดขาย personal care ที่มี margin สูงขยายตัวต่อเนื่อง 3) SG&A รวมอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท (+9% YoY, -1% QoQ) จากการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และค่าใช้จ่ายในการควบรวมของ CPAXT
คงประมาณการกำไร 2567/68 ที่ 2.3 และ 2.7 หมื่นล้านบาท โต +23%/+19% YoY โดยประมาณการกำไรปกติ 9M67 คิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปีของฝ่ายวิจัย ทำให้คาด upside ราว +5% ซึ่งแนวโน้ม Q4/67 ขยายตัวได้ทั้ง YoY และ QoQ จาก high season ของทุกธุรกิจของบริษัทและเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว
ราคาหุ้น outperform SET ในช่วง 6 และ 12 เดือนที่ผ่านมา จากคาดได้ผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ หนุนผลการดำเนินงาน 2H67 และยังแนะนำ “ซื้อ” CPALL จากคาดเห็นการเติบโตได้ดีต่อเนื่องในทุกธุรกิจ
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม