#ทันหุ้น - บล.ทิสโก้ สแกน บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ประกาศกำไรสุทธิ Q3/67 ที่ 50 ล้านบาท -52%YoY, -78%QoQ โดยเทียบกับ Q3/66 ที่กำไรสุทธิ 104 ล้านบาท โดยใน Q3/66 มีบันทึกกำไรพิเศษจากการต่อสัญญาสุขุมวิทจำนวน 20 ล้านบาท และมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (tax loss carry forward) 91 ล้านบาท โดยหากไม่รวมรายการดังกล่าว Q3/67 จะมีกำไรที่มากกว่า Q3/66 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 5 ล้านบาท
รายได้ตั๋วหนังลดลง -4%YoY -26%QoQ เนื่องจากใน Q2/67 มีหนังเด่นหลายเรื่องได้แก่ “หลานม่า”, “อนงค์”, Godzilla x Kong, “เทอม 3” และ Inside Out 2 สำหรับใน Q3/67 มีหนังทำรายได้จำนวนน้อยกว่า ได้แก่ Deadpool & Wolverine ทำรายได้ 178 ล้านบาท, วิมานหนาม 93 ล้านบาท, องครักษ์พิทักษ์เจี๊ยบ 35 ล้านบาท, Minions 34 ล้านบาท และเอเลี่ยน 26 ล้านบาท
รายได้ธุรกิจอาหาร-เครื่องดื่ม -11%YoY, -26%QoQ ตามรายได้หนังที่ลดลงและการทำโปรโมชั่นลดลง สำหรับสินค้า Popcorn จำหน่ายผ่านร้านค้าปลีก 7-11 จำนวน 14,000 สาขาทั่วประเทศ แต่สัดส่วนรายได้ยังเล็กน้อยคิดเป็นราว 4% ของรายได้กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม รายได้ค่าโฆษณา -4%YoY, +14%QoQ ตามรายได้ตั๋วหนัง อัตราทำกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายคาดเพิ่มขึ้นจากรายการพิเศษตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้อัตราทำกำไรอยู่ที่ 3% ลดลงจาก 6%YoY แต่เพิ่มขึ้นจาก 11%QoQ
คาดผลประกอบการปีนี้ เติบโตจากเน้นภาพยนตร์ไทยและการขยายสาขาต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น แนวโน้มผลประกอบการ Q4/67 จะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ จากหนังภาพยนตร์หลายเรื่องที่เข้ามา โดยหนังไทยหลายเรื่องได้แก่ “ธี่หยด 2” ที่ทำเงินมากกว่า 760 ล้านบาท แล้ว, “หลวงพี่เท่ง”, “หมู่บ้านโคกะโหลก”, “นาคบรรพ์” และหนังต่างประเทศ เช่น “Joker”, “Venom”, “Gladiator”, “Mufasa : The Lion King” และ , “Kraven the Hunter” เป็นต้น
ประเมินกำไรหลักปี 2567 จะเพิ่มขึ้น 29%YoY จากการขยายโรงภาพยนตร์ต่างจังหวัดมากขึ้นและเน้นภาพยนตร์ไทยมากขึ้น โดยบริษัทวางแผนภาพยนตร์ไทยปีละ 50 เรื่อง ส่งผลให้รายได้อาหารและเครื่องดื่มทานเล่นและรายได้ค่าโฆษณาเติบโตตามรายได้ตั๋วภาพยนตร์ และการขายอาหาร Popcorn ผ่าน delivery รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 เพิ่มขึ้น บริษัทได้มีการขยายช่องทางจำหน่ายผ่าน Lotus, BigC ใน ก.พ.ที่ผ่านมา และบริษัทวางแผนขยาย โรงภาพยนตร์เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะต่างจังหวัด ปีนี้ประมาณ 47 โรงภาพยนตร์ 15 โลเคชั่น จากปีที่ผ่านมามี 851 โรงภาพยนตร์ 184 โลเคชั่น ฝ่ายวิจัยคาด Gross margin 34% ใกล้เคียงปีที่ผ่านมา คาดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย 24% ส่งผลให้คาดอัตรากำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 10%
คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 20.50 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 8%) ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER ปี 67 ที่ 15x สถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น net cash คาด Dividend Yield’ ปี 67 ที่ 2.7% มากกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มอยู่ที่ 1.5% ความเสี่ยง : 1) เศรษฐกิจซบเซา 2) การล็อกดาวน์จากสถานการณ์ COVID-19 หากรุนแรงขึ้น
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม