#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า สแกน หุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR คงคำแนะนำ “ซื้อ” กลับเข้าสู่ยุครุ่งเรืองของภาพยนตร์ไทย ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่พลิกฟื้นใน 2H67 และคาดเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2568 ซึ่งคาดว่ารายได้จากภาพยนตร์ยังมีแนวโน้มเติบโตดี ตามกระแสภาพยนตร์ไทยที่กลับมานิยม และคาดฝั่งฮอลลีวูดจะมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายมากขึ้น รวมถึงการเติบโตจากธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่าง ธุรกิจจำหน่ายป๊อปคอร์นที่มีแผนขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ มากขึ้น ฝ่ายวิจัยมีการปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานปี 2568 ที่ 17.90 บาท อิงวิธี DCF สมมติฐาน WACC ที่ 7.8% Terminal growth 2%

ทั้งนี้ คาดกำไรปกติ Q3/67 เติบโต YoY รายได้แผ่ว แต่ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น โดยคาดกำไรสุทธิใน Q3/67 ที่ 44 ล้านบาท -81%QoQ ,-58%YoY เทียบปีก่อนหากไม่รวมรายการพิเศษบันทึก รายได้ทางภาษีจากการขายหุ้น MPIC หากไม่รวมรายการดังกล่าวกำไรปกติจะเติบโต 87%YoY

โดยมีปัจจัยสำคัญ ดังนี้ 1)รายได้รวมปรับลดลง 6%YoY เหลือ 1,635 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ภาพยนตร์ที่ปรับลดลง 5%YoY รายได้จากการขายอาหารและป๊ อปคอร์น -13%YoY เนื่องจากบริษัทยกเลิกโปรโมชั่นลดราคา ซึ่งปีก่อนมีรายการโปรโมชั่นขายผ่าน Shopeeและรายได้จากธุรกิจโฆษณาลดลง 5%YoY จากการชะลอการใช้งบผู้ประกอบการและภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ที่น้อยกว่าปีก่อน 2)ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น แม้ยอดขายจะลดลง แต่มีผลบวกจากนโยบายการควบคุมต้นทุน ,ต้นทุนค่าไฟลดลง, ต้นทุนค่าเช่าลดลงจากการเจรจาขอปรับลดค่าเช่า, ต้นทุนจัดงานอีเว้นท์ลดลง และกลยุทธ์ในการยกเลิกปรับลดราคาป๊อปคอร์น ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับตัวดีขึ้นจาก Q3/66 ที่ 20.4% เป็น 22.3% ขณะที่เทียบ QoQ ผลประกอบการปรับลดลงตามปัจจัยฤดูกาล ซึ่งปกติในไตรมาส 3 จะเป็น Low Season ของธุรกิจภาพยนตร์

คาด Q4/67 เติบโตดี QoQ, YoY…ลุ้นกระแสธี่หยด 2 มาแรง โดย Q4/67 คาดผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต QoQ, YoY จากภาพยนตร์ที่เข้าฉายมากขึ้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทยที่ โดยภาพยนตร์เรื่อง “ธี่หยด2” สร้างปรากฏการณ์ทุบสถิติเปิดตัวสูงสุดที่ประเทศไทยและเวียดนาม เข้าฉายเพียง 9 วัน ทำรายได้ทะลุ 500 ล้านบาท เท่ากับรายได้ตลอดการฉายในภาคแรกไปแล้ว ซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่ามีโอกาสที่จะทำรายได้ไปถึง 800-1,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ยังมีภาพยนตร์ที่คาดจะทำรายได้ดี ได้แก่ “วัยหนุ่ม” 2544 (จากผู้สร้าง 4KING ที่ประสบความสำเร็จทั้ง 2 ภาค) และ “404 สุขีนิรันดร์..RUN RUN” ของค่าย GDH ฝั่ งภาพยนตร์ฮอลลีวูดได้แก่ Venom และ Kraven the Hunter ขณะที่ธุรกิจจำหน่ายป๊อปคอร์น และเครื่องดื่ม คาดเติบโตตามรายได้ภาพยนตร์และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่หลากหลายรสชาติมากขึ้น 

พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ มากขึ้น รวมถึงยกเลิก กลยุทธ์ปรับลดราคา ส่วนรายได้จากโฆษณาคาดจะพลิกกลับมาเติบโต ตามรายได้ภาพยนตร์โดยเฉพาะ ธี่หยด2 ที่มีรายได้จากโฆษณา Tie-in เพิ่มเข้ามา ภาพรวมปี 2567 เบื้องต้นฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรปกติที่ 669 ล้านบาท (-4%YoY)

ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.new