#CPAXT #ทันหุ้น-บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าไตรมาส 3/67 มีกำไร 1,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 1,676.91 ล้านบาท โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 124,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ในไตรมาส 3/67 มีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 118,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,026 ล้านบาท หรือ 4.4% จากการเติบโตของรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่ง 5.2% หนุนจากการเติบโตของทุกหน่วยธุรกิจ โดยเฉพาะจากยอดขายกลุ่มสินค้าอาหารสด และยอดขายนอกร้านพร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (“Omni Channel”) รวมถึงการขยายสาขา ในขณะที่รายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.5% จากกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นกลุ่มสินค้าอาหารสด และการขายผ่าน Omni Channel
ทั้งนี้สัดส่วน Omni Channel ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยคิดเป็น 18.8% ของรายได้จากการขายสินค้า บรรลุเป้าหมายที่บริษัทฯ วางไว้ของปีนี้ตอกย้ำถึงความเป็น “ผู้นำเทคโนโลยีค้าปลีกค้าส่ง”ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค
ในไตรมาส 3/67 มีกำไรขั้นต้นรวมจำนวน 17,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,487 ล้านบาท หรือ 9.5% จากไตรมาสเดียวของปีก่อน ทั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อยมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 14.4% ของยอดขายรวม จาก 13.7% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการปรับตัวดีขึ้นทั้งกลุ่มธุรกิจค้าส่งและกลุ่มธุรกิจค้าปลีก
**แนวโน้มธุรกิจ
สำหรับไตรมาสสุดท้ายปี 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยคาดการเติบโตของรายได้ขยายตัวจากปีก่อน โดยเน้นกลยุทธ์ ในการเติบโตผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการขาย Omni Channel การขยายสาขา ปรับโฉมสาขา และ สร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางชุมชนรวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย โดยนำเสนอในรูปแบบและขนาด ตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละท้องถิ่นได้ดียิ่งขึ้น
อีกทัั้งการผนึกกำลังของบริษัทฯ และบริษัทย่อย ใช้ความแข็งแกร่งด้านกลุ่มสินค้าอาหารสด และอาหารแปรรูป พัฒนาต่อยอดอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน และเบเกอรี่ พร้อมทั้งสรรหาสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อสร้างความแตกต่าง และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าใน ราคาที่คุ้มค่า รวมถึงการเพิ่มสัดส่วนและยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label)อย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น
CPAXT ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2567 ทำรายได้รวม 124,441 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% โดยมีกำไรสุทธิ 1,952 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16.4% ขณะที่กำไรสุทธิหลังการปรับปรุงรายการ(1) อยู่ที่ 2,410 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) เป็นผลมาจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตขึ้นทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก
โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด การขายนอกร้าน พร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (“Omni Channel”) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วน 19% ของยอดขายรวม ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทฯ ตั้งไว้ ส่งผลให้ใน 9 เดือนแรกของปี 2567 มีรายได้รวม 378,416 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 6,609 ล้านบาท เติบโตขึ้น 4.7% และ 23.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY) ตามลำดับ นอกจากนี้ อีกปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง คือการเดินหน้าขยายสาขา 43 แห่ง พร้อมปรับโฉมสาขา และพัฒนามอลล์อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความสำเร็จจากการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่ตั้งไว้
สำหรับแนวทางการเติบโตในไตรมาส 4/2567 นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขับเคลื่อนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่
1. การเพิ่มความแข็งแกร่งกลุ่มสินค้าอาหารสด ผ่านการผนึกกำลังสรรหาสินค้า เพื่อสร้างความแตกต่าง และความหลากหลาย ในราคาที่คุ้มค่า พัฒนาต่อยอดอาหารพร้อมปรุง อาหารพร้อมทาน เบเกอรี่ และสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private Label) ซึ่งส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้น
2. การพัฒนาทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์และการส่งสินค้าถึงลูกค้า จากการขยายพื้นที่ให้บริการ โดยใช้จุดแข็งของเครือข่ายสาขาทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก 2,600 สาขาทั่วประเทศ พร้อมพัฒนาทีมขายนอกร้าน เพื่อให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น
3. การขยายสาขา ปรับโฉมสาขาและพัฒนามอลล์ สู่การเป็นศูนย์กลางชุมชน ที่รองรับการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดโลตัส สาขายะลา ซึ่งเป็นสาขารูปแบบ hypermarket แห่งแรกของบริษัทฯ ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมขยายสาขารูปแบบ Hybrid ที่รวมทั้งค้าปลีกและค้าส่งไว้ในที่เดียว ได้แก่ แม็คโคร-โลตัสมอลล์ สาขาชัยนาท และสาขาถนนศรีอยุธยา รวมถึงการปรับโฉมสาขา เพื่อตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์การจับจ่ายที่เหนือกว่า ให้กับลูกค้าและผู้ประกอบการอย่างลงตัว
ด้วยกลยุทธ์ ควบคู่กับการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง สอดรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อธุรกิจโฮเรก้า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ คาดว่าจะส่งผลบวกต่อการเติบโตของบริษัทฯ ด้วย
หมายเหตุ: (1) หลังการปรับปรุงรายการอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการควบบริษัท
ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม