DELTA มุมมอง 'กสิกรไทย' หลังประกาศงบ Q3/67

#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กําไรปกติไตรมาส 3/2567 สูงสุดที่ 6.2 พันลบ. เพิ่มขึ้น 23 % YoY และ 4% QoQ ผลประกอบการออกมาสูงกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้ 6% เนื่องจากอัตรากําไรขั้นต้น (GPM) ที่แข็งแกร่งกว่าคาด

การเพิ่มขึ้น YoY มาจากยอดขายที่แข็งแกร่งและการขยายตัวของ GPM กําไรปรับตัวขึ้นเล็กน้อย QoQ จากการเติบโตที่ถูกกดดันจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนกําไรสุทธิอยู่ที่ 5.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ลดลง 10% QoQ เนื่องจาก DELTA บันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจํานวน 350 ลบ. กําไรปกติในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 รวมอยู่ที่ 1.59 หมื่นลบ. คิดเป็น 71% ของประมาณการกําไรปกติทั้งปีของฝ่ายวิจัยที่ 2.25 หมื่นลบ.

รายได้เป็นไปตามแผน GPM เพิ่มขึ้น ยอดขายปรับตัวดีขึ้นเป็น 1.22 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8% YoY และ QoQ แต่รายได้ในสกุลเงินบาทเพิ่มขึ้นเพียง 4% QoQ เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลารสหรัฐฯ ไฮไล์สําคัญในไตรมาสนี้ คือรายได้จากศูนย์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้น 19% YoY และ 15% QoQ ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของค่าใช้จ่ายการลงทุน (capex) ในศูนย์ข้อมูลระดับระดับไฮเปอร์สเกล

อย่างไรก็ตามยอดขาย EV หดตัวลง 13% YoY แต่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย QoQ เนื่องจากยอดขายที่อ่อนแอในสหรัฐฯ และจีน แต่ยอดขายในยุโรปฟื้นตัว ส่งผลให้มีสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ทําให้อัตรากําไรขั้นต้น (GPM) ดีขึ้นเป็น 27.6% นอกจากนี้ DELTA ยังบันทึกมูลค่าสุทธิที่คาดว่าจะได้รับ (NRV) ของสต๊อกสินค้าประมาณ 500 ลบ. ซึ่งช่วยเพิ่ม GPM ในไตรมาสนี้อีก 1.1 ppt

คงคําแนะนํา “ถือ” ด้วยเป้าหมายที่ 113 บาท และจะอัปเดตการคาดการณ์หลังการประชุมนักวิเคราะห์วันนี้ ( 28 ต.ค.67) โดยรวมแล้วคาดว่ามี upside ต่อประมาณการ GPM ของฝ่ายวิจัยแต่จะมี downside ต่อต้นทุนการขาย เนื่องจากอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ณ ระดับปัจจุบัน DELTA ซื้อขายด้วย PER ปี 2567 ที่ 73 เท่า และ PBV ที่ 20 เท่า