#MFC #ทันหุ้น MFC พาลุยโค้งท้ายกับกองทุนลดหย่อนภาษี ทั้ง ThaiESG, SSF และ RMFพร้อมชูหุ้นไทยเด่นรับเงินฟันด์โฟล์ ตัวใหญ่ได้อานิสงส์ แนะ MT25-ThaiESG และ MFLEX-ThaiESGรับธีมESGรวมถึงควรจัดพอร์ตลงทุนแบบกระจายเสี่ยง ทั้งในหุ้นโลกและตราสารหนี้ รับโอกาสในระยะยาว

นายเชาวน์กร โชติบัณฑ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC กล่าวว่า MFCคัดกองทุนสำหรับวางแผนลดหย่อยภาษีปลายปี ทั้งThaiESG, SSF และ RMF เพื่อเป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุน โดยกองทุนหุ้นไทย แนะนำ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีท็อป 25 หุ้นไทย เพื่อความยั่งยืน (MT25-ThaiESG) ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SET ESG Index จำนวน 25 บริษัทแรก

กองทุน MT25-ThaiESG เป็นกองทุนหุ้น มีระดับควำมเสี่ยง 6 เน้นลงทุนหุ้นยั่งยืนตัวท็อป 25 บริษัท จากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ของ SETESG Index มีการควบคุมการกระจุกตัวของหลักทรัพย์ในแต่ละกลุ่ม (Sector) โดยกระจายลงทุนในแต่ละ Sector ไม่เกิน 5 หลักทรัพย์ เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นผลตอบแทนในระยะยาว สามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนจากราคาหุ้นได้

และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเฟล็กซิเบิลไทยเพื่อความยั่งยืน (MFLEX-ThaiESG) เป็นกองทุนผสม กระจายการลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และอื่นๆ โดยลงทุนในหลักทรัพย์ที่ผู้ออกเป็นภาครัฐไทยหรือกิจการที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยที่มีส่วนในการส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability) ให้ประเทศไทย

*คัดกองทุนผสม

กองทุน MFLEX-ThaiESG เป็นกองทุนผสม มีระดับความเสี่ยง 5 ลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ที่มี ESG Rating Score สูง เน้นสร้างผลตอบแทนและลดความผันผวนตามสภาวะตลาด สัดส่วนการลงทุนใน SETESG TRI ที่ 70% และ ThaiBMA ESG Bond Index ที่ 30% มีความหยืดหยุ่นในการปรับสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และตราสารหนี้ได้ตั้งแต่ 0-100% ตามสภาวะตลาด โดยทีมลงทุนมีความชำนาญในการบริหารกองทุนผสมยาวนานกว่า 20ปี เหมาะกับผู้ลงทุนที่เน้นผลตอบแทนในระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วไป และสามารถรับความเสี่ยงและความผันผวนจากราคาหุ้นได้

“เรามีมุมมองว่า ฟันด์โฟลว์ที่กลับเข้ามาลงทุนหุ้นไทย หุ้นใหญ่จะได้รับประโยชน์ก่อน และการลงทุนในแบบ ESG ยังเป็นเมกะเทรนด์โลก ดังนั้นจึงแนะนำลงทุน ThaiESG ใน 2 กองทุนที่เลือกมาให้”

สำหรับ มุมมองตลาดหุ้นไทย MFC มองว่า ดัชนี SET ปี 2567 จะอยู่ที่ 1,460 จุด ซึ่งก็มีการปรับขึ้นไปแตะจุดดังกล่าวแล้วในช่วงที่ผ่านมา ส่วนปี 2568 ดัชนี้หุ้นไทยจะอยู่ที่ 1,550 จุด ดังนั้น MFC จึงให้น้ำหนัก Overweight ในระยะ 12 เดือนข้างหน้าสำหรับตลาดหุ้นไทย

โดยมีมุมมองว่า เศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากที่สภาพัฒน์ฯ เปิดเผยเศรษฐกิจไทย ตัวเลข GDP ในไตรมาส 2 ขยายตัว 2.3% เร่งตัวขึ้นจาก 1.6% ในไตรมาส 1 โดยดาดในช่วงที่เหลือของปีเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัว และหนุนให้ GDP ทั้งปี 2567 ขยายตัว 2.6% ที่ผ่านมาหุ้นไทยราคายัง Laggard ไม่ค่อยขึ้น แต่หลังจากมีการเปิดเผยคณะรัฐมนตรีชุดใหม่รวมถึงนโยบายกระต้นเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม มองว่าเป็นแรงหนนต่อตลาดหันไทยในระยะถัดไป

*แนะเก็บหุ้นใหญ่เน้นESGสูง

อีกทั้งเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Foreign Fund Flow) เริ่มพลิกกลับมาเป็นฝั่งซื้อในเดือน กันยายน. เนื่องจากต่างชาติยังมีสถานะในหุ้นไทยน้อย ประกอบกับ Valuation ยังด่อนข้างถูก อยู่ในระดับที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเกิดใหม่ด้วยกัน MFC จึงแนะนำให้ทยอยลงทุน หุ้นขนขนาดใหญ่ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และมีคะแนน ESG สูง ซึ่งเป็นเป้าหมาย Fund Flow ของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ MFC ยังคงแนะนำกระจายลงทุนทที่หลากหลาย ดังนั้นยังคงแนะนำทางเลือกการลงทุนในต่างประเทศ กับกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล โฟกัสเพื่อการเลี้ยงชีพ (MGFRMF) และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล โฟกัส เพื่อการออม (MGFSSF)โดยทั้ง 2 กองทุนเน้นลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Market) และประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market)

กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี คอนติเนนทัล ยูโรเปียน อิควิตี้ ชนิดเพื่อการออม (MEURO-SSF)ลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จัดตั้งหรือดำเนินกิจการหลักในยุโรปไม่รวมสหราชอาณาจักร

สำหรับการลงทุนแบบธีม (Thematic) แนะนำ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี เพื่อการเลี้ยงชีพ MRENEWRMF/ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี เพื่อการออม (MRENEW-SSF) เน้นลงทุนพลังงานทดแทนคุณภาพดีที่เติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีในอนาคตไกล

และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เฮลธ์ อินโนเวชั่น เพื่อการเลี้ยงชีพ MHEALTHRMF/ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เฮลธ์ อินโนเวชั่นเพื่อการออม MHEALTHSSF ลงทุนในหุ้นของบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ เภสัชกรรม เทคโนโลยีทางการแพทย์ และการจัดหาและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ