> SET > CPALL

03 ตุลาคม 2024 เวลา 19:42 น.

หุ้นกลุ่มCPปัจจัยหนุนเพียบ ชูCPALLกำไรปกติโตเด่นสุด


#ทันหุ้น – กลุ่ม CP ดีดรับปัจจัยหนุนทั้งพื้นฐานธุรกิจ กำลังซื้อฐานรากที่เริ่มฟื้นตัว และมาตรการภาครัฐฯ หนุนยอดขายต่อสาขาทั้ง CPALL, CPAXT โตเด่น ด้าน CPF คาดทำกำไรปกติที่ 1.65 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุนในปีที่แล้ว กูรูแนะ “ซื้อ” CPALL เป้า 79.20 บาท ด้านCPAXT เป้า 38 บาท ส่วน CPF ให้ 29.10 บาท


นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2567 หุ้นในกลุ่ม CPประกอบด้วยหุ้นกลุ่มอาหาร - การบริโภคภายในประเทศ CPF, CPALL CPAXT และTRUE ว่า โดยภาพรวมยังมีแนวโน้มได้รับปัจจัยบวกจากภาพใหญ่ อาทิ มาตรการอัดฉีดสภาพคล่องระยะสั้นให้กลุ่มฐานราก, มาตรการเพิ่มรายได้ผ่านการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท, การเบิกจ่ายงบประมาณประจำปี 2568,รวมถึงมีปัจจัยหนุนจากเม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์ที่จะทยอยเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยแม้มีปัจจัยกดดันจากปัจจัยฤดูกาล รวมถึงสถานการณ์อุทกภัยบางพื้นที่


เบื้องต้นประเมินยอดขายต่อสาขา (SSSG) ของ CPALLงวดไตรมาส 3/2567 ยังเติบโตได้ หนุนจากความสามารถในการเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มอาหารทั้งอาหารสด,อาหารกกึ่งสำเร็จรูปพร้อมทาน ,สินค้าเกี่ยวกับการท่องเที่ยว การจำหน่ายสินค้าออนไลน์ รวมถึงยอดการจัดซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น หนุนให้กำไรปกติมีแนวโน้มเติบโตได้ดีที่สุดในกลุ่ม CPและหากมองไปไตรมาส 4/2567 ซึ่งเข้าสู่ช่วงเทศกาลจับจ่ายใช้สอย – การเดินทางท่องเที่ยวหนุนให้ยอดขายต่อสาขาเติบโตได้อย่างโดดเด่น คาดไรปกติปี 2567 ที่ 23,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% YoYและเติบโตต่อเนื่อง 7.2% YoY แตะ 24,759 ล้านบาท แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย เป็น 79.20 บาท


*CPAXT ควบรวมเสร็จ

ขณะที่ CPAXT สิ้นสุดกระบวนการควบรวมกิจการกับบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เอก-ชัย) โดยหุ้นของ CPAXT และ เอก-ชัย จะถูกแทนที่และกลับมาซื้อขายในตลาด การควบรวมกิจการ คาดว่าจะส่งผลดีต่อบริษัทในระยะกลางถึงยาว โดยการสร้างมูลค่าเพิ่มจากการผนึกกำลังคิดเป็นประมาณ 1% ของยอดขายรวม หรือประมาณ 5 พันล้านบาท ภายใน 2-3 ปี จากประสิทธิภาพและความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นจากการบริหารจัดการรับบโลจิสติกส์และห่วงโซ่การจัดหาสินค้าภายในประเทศและต่างประเทศ


คาดกำไรปกติทั้งปี 2567 ของ CPAXT ที่ 23,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoYและเติบโตต่อเนื่องอีก 16.22% YoY แตะ 11,636 ล้านบาท จึงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 38 บาท


*CPFมุ่งเพิ่มกำไร-ลดต้นทุน

สำหรับ CPF คาดว่าต้นทุนการเลี้ยงสัตว์งวดครึ่งหลังของปี 2567 (2H67) จะลดลง 6% เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2567 (HoH) สวนทางราคาเนื้องหมู – เนื้อไก่ที่ยังคงทรงตัวสูงหนุนความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในไทย และจีน ประกอบกับ CPF มีแผนที่จะส่งออกผลิตภัณฑ์ไก่ปรุงสุกมากขึ้น มุ่งเพิ่มผลกำไรและลดต้นทุนโลจิสติกส์ จึงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 1.65 หมื่นล้านบาท พลิกจากขาดทุน 5,207 ล้านบาท เมื่อปี 2566 พร้อมคาดการณ์อัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 3.36%  แนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 29.10 บาท


ฝ่ายวิเคราห์ คาดว่ารายได้ปกติไตรมาส 3/2567 ของ TRUE จะเติบโต 4.7% YoY สอดล้องกับรายได้เฉลี่ยของผู้ให้บริการต่อลูกค้าหนึ่งคน (ARPU) ที่ราว 216 บาท เพิ่มขั้น 9.1% YoY และเพิ่มขึ้น 4.3% QoQ โดยคาดว่า EBITDA ไตรมาส 3/2567 น่าจะเติบโต 13.4% YoY และทรงตัว QoQ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้น (EBITDA margin) ไตรมาส 3/2567 ที่ 46.9% เทียบกับ 42.9% ในไตรมาส 3/2566 และ 47.6% ในไตรมาส 2/2567


ทั้งยังมีมุมมองเชิงบวกต่อพรีวิวผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของ TRUE เนื่องจากยังมี Upside risk ต่อประมาณการ EBITDA และกำไรปกติของ ทั้งยังคงมุมมอง “บวก” ต่อแนวโน้มโดยรวมของกลุ่มโทรคมนาคมจากการแข่งขันที่ไม่รุนแรง,วัฏจักรการลงทุน 5G ที่ชะลอตัวลง และแนวโน้มการประหยัดต้นทุนจากการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโรมมิ่งเป็นข้อตกลงแบบใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่เร่งตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนปัจจัยทั้งหมดข้างต้นไปแล้ว จึงแนะนำ “ถือ”

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X