#SUN #ทันหุ้น – SUN ขยายฐานลูกค้าใหม่ในตลาดอเมริกาเต็มสูบ มุ่งสู่ Global Brand ในระดับสากล และเดินหน้าขยายตลาดประเทศอื่นๆ อีกเพียบ เช่น เกาหลี ญี่ปุ่น ตามแผน รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเดิม ลุยพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ดันรายได้โตเข้าเป้าระดับ 10-15%

ดร.องอาจ  กิตติคุณชัย  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) หรือ SUN เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินหน้าตามกลยุทธ์การขยายตลาดอเมริกา ตามนโยบาย "Go West" โดยล่าสุดได้เข้าร่วม งาน Americas Food & Beverage Show & Conference 2024 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-18 กันยายน 2567 ณ Miami Beach Convention Center สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดของ SUN และยกระดับแบรนด์ KC สู่การเป็น Global Brand ในระดับสากลต่อไป

โดยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Americas Food & Beverage Show & Conference 2024 ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้บริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ข้าวโพดหวานแปรรูปภายใต้แบรนด์ "KC" รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆ สู่ลูกค้าในอเมริกา

*ขยายตลาดต่างแดน

นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายตลาดประเทศอื่นๆได้เเก่ ตลาดเกาหลี ส่งข้าวโพดหมาล่า ไปบุกตลาดเกาหลี ภายหลังจากการเจรจาจับมือกับพันธมิตรภายในงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก THAIFEX-ANUGA ASIA 2024 ที่ผ่านมา

รวมถึงตลาดญี่ปุ่น โดยร่วมกันพัฒนาสินค้ามันหวานญี่ปุ่น (Sweet Potato) แบรนด์ KC ซึ่งจะเริ่มส่งมอบไตรมาส 3/2567 โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการตลาดและวางจำหน่ายใน Convenience Store ที่เป็นร้านค้าปลีกรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งมีสาขามากกว่า 3,000 สาขาในประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะช่วงหนุนยอดขายและสร้างรายได้แบบก้าวกระโดดได้ในอนาคต และออกสินค้าใหม่กระตุ้นยอดขาย อาทิ ข้าวโพดหมาล่า มันหนึบ ข้าวโพดกระป๋องไซซ์มินิขนาดพกพา และข้าวโพดปิ้งขนาดเล็ก เป็นต้น

*มั่นใจรายโต 10-15%

สำหรับที่นี้บริษัทคาดว่ารายได้เติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ระดับ 10-15% ในปี 2567 จากปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวม 3,706.10 ล้านบาท เเละกำไรสุทธิที่ 357.38 ล้านบาท โดยจะใช้กลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืน ปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุน และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอนาคต รวมถึงรักษาฐานลูกค้าเดิม และมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าใหม่ในตลาดอเมริกาอย่างเต็มที่

ขณะที่สัดส่วนรายได้กว่า 70-80% จากการส่งออกเพราะว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เตรียมการเพิ่มกำลังการผลิตในกลุ่มสินค้าพร้อมทาน (RTE) โรงงาน Mini Factory 2 จะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ถึง 180,000-200,000 ชิ้นต่อวัน หรือราว 2 เท่าตัว ภายในสิ้นปี 2567 นี้

รวมถึงมีแผนพัฒนาอายุการเก็บรักษา (Shelf Life) ผลิตภัณฑ์ เพื่อสอดรับกับความต้องการของลูกค้าต่างประเทศ และเหมาะสมกับการส่งออกในอนาคตเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนการลงทุนในปี 2567 บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมลงทุนทางด้านพลังงานไฟฟ้าสะอาด เพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม จำนวน 1 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 70- 100 ล้านบาท

ทันเกม  รู้ก่อนใคร  ติดตาม  "ทันหุ้น"  ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/