ธีมการลงทุนใหญ่กำลังกลับมา BBL-KBANK-KTB น่าสนใจ

#BBL #ทันหุ้น - บทวิเคราะห์ โดย บล.บัวหลวง

บล.บัวหลวงระบุว่า เราพูดถึงปัจจัยกระตุ้นสำหรับธนาคารไทย โครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน สองปัจจัยดังกล่าวจะเร่งการขยายตัวของสินเชื่อในอีกหลายปีข้างหน้า ดังนั้น บล.บัวหลวงจึงแนะนำให้ยึดตามธีมการลงทุน หุ้นที่เราชอบ ได้แก่ BBL, KBANK และ KTB ซึ่งได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีที่สุด

#1 โครงการโครงสร้างพื้นฐานมีต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568

บล.บัวหลวงคาดว่าการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 โดยมีโครงการโครงสร้างพื้นฐานใหม่ของรัฐบาลมูลค่า 4.81 แสนล้านบาท คาดว่าจะเปิดประมูลในช่วงไตรมาส 4/67 ถึงปี 2568 นอกจากนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหภาคจะส่งผลให้มีการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจะหนุนการขยายตัวของสินเชื่อและกำไรของธนาคาร จากการศึกษาข้อมูลในอดีตปี 2549-2566 พบว่าสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทยและการลงทุนของหน่วยงานรัฐมีความสัมพันธ์กันถึง 81% การลงทุนของหน่วยงานรัฐที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อเร็วขึ้น

#2 FDI จะเข้ามามากขึ้น และซัพพลายเชนจะหนุนการขยายตัวของสินเชื่อ

บล.บัวหลวงคาดว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) จะเพิ่มขึ้นในปี 2568 เนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะกระตุ้นให้แบรนด์ และผู้ผลิตย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังไทย แม้ว่าหลายบริษัทจีนอาจจะเริ่มต้นโดยการขอสินเชื่อจากธนาคารจีนของตน แต่เราคาดว่าบริษัทและซัพพลายเออร์ของพวกเขาจะยื่นขอสินเชื่อเพื่อเงินทุนหมุนเวียนจากธนาคารในประเทศ ซึ่งจะเพิ่มการเติบโตของสินเชื่อ จากการศึกษาข้อมูลในอดีตปี 2549-2566 พบว่าสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทยและการไหลเข้าของ FDI มีความสัมพันธ์กัน 62% การไหลเข้าของ FDI ที่มากขึ้นมักจะเป็นประโยชน์ต่อการขยายตัวของสินเชื่อ นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างการไหลเข้าของ FDI รวมกับการลงทุนของหน่วยงานรัฐเทียบกับดัชนี SETBANK การศึกษาข้อมูลในอดีตปี 2549-2566 แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ 71% การไหลเข้าของ FDI ที่มากขึ้นและการลงทุนของหน่วยงานรัฐมักจะสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นของดัชนี SETBANK

#3 แผนโครงการขนาดใหญ่ระยะกลางถึงยาว

เมื่อมองไปยังช่วงการลงทุนระยะกลางถึงยาวของประเทศไทย มีโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่เป็นไปได้รวมมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท นำโดยโครงการแลนด์บริดจ์(เส้นทางชุมพร-ระนอง) สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ภาคใต้ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าระหว่างอ่าวไทยและทะเลอันดามัน) entertainment complexes และโครงการถมทะเลบริเวณเกาะ 9 แห่งในอ่าวไทยหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง การจัดหาเงินทุนจะมาจากธนาคารในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นสินเชื่อจะขยายตัวอย่างมากในระยะกลางถึงยาวสำหรับกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำ